คุณภาพอากาศในกรุงเทพเป็นอย่างไร

จากรายงานพบว่าคุณภาพอากาศในกรุงเทพน่าเป็นห่วงและมีค่า PM2.5 สูงในช่วงต้นปี 2562 จนมีการปิดโรงเรียนและรัฐบาลต้องจำกัดการใช้รถยนต์ ว่าแต่คุณภาพอากาศในกรุงเทพจะแย่ขนาดไหน เราลองวิเคราะห์ข้อมูล PM2.5 ของปี 2561 จากหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลไทยที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในกรุงเทพฯ และนี่คือสิ่งที่พบ:

ฝุ่นละออง PM2.5 ของกรุงเทพฯ มีค่าเฉลี่ย 27 ไมโครกรัม/ลบ.ม. (µg/m3) ในช่วงปี 2561

นับว่าแย่แค่ไหน

ระดับ PM2.5 ของกรุงเทพในปี 2561 เกินขีดจำกัดต่อปีขององค์การอนามัยโลก (WHO) อยู่ 3 เท่าตัวซึ่งค่าที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 10 ไมโครกรัม/ลบ.ม. (µg/m3) ซึ่งนับว่าเป็นข่าวร้ายต่อสุขภาพของคนในกรุงเทพ การวิจัยพบว่าแม้แต่ระดับ 10 ไมโครกรัม ก็ส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างมากแล้ว เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆในยุโรป กรุงเทพกลับมีระดับมลพิษสูงกว่าปารีส เบอร์ลิน และลอนดอน เสียอีก

มลพิษอากาศในกรุงเทพ: ข่าวดี

ว่าแต่อากาศในกรุงเทพแย่ที่สุดในโลกไหม คำตอบคือไม่อย่างแน่นอน ช่วงฤดูหนาวที่ปักกิ่งซึ่งแย่กว่ามาก และในทางกลับกัน คุณภาพอากาศของกรุงเทพไม่ได้แย่เท่าปักกิ่ง

หากเราเปรียบเทียบระดับมลพิษแต่ละปีของกรุงเทพกับของนิวเดลี (หนึ่งใน 10 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก) เราจะพบว่าระดับ PM2.5 ของกรุงเทพต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 4 เท่า

มลพิษอากาศในกรุงเทพ: ข่าวร้าย

ปัญหาคือ ข้อมูลข้างต้นคือค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปี ความจริงกรุงเทพมีมลพิษอากาศที่แย่กว่ามากในฤดูหนาว โดยเดือนมกราคม ปี 2561 กรุงเทพมีระดับ PM2.5 สูงถึงเกือบ 60 ไมโครกรัม/ลบ.ม. (µg/m3) ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยรายปีของกรุงเทพฯ สองเท่า และเกือบ 6 เท่าของขีดจำกัดประจำปีขององค์การอนามัยโลก (WHO)

ทำไมอากาศช่วงหน้าหนาวในกรุงเทพถึงแย่นัก จริงๆแล้วอากาศในฤดูหนาวทั่วโลกมีแนวโน้มแย่ลงเพราะอากาศเข้าไปใกล้พื้นผิวโลกมากขึ้น เนื่องจากการ ‘ผกผัน’ ในฤดูร้อน อากาศที่ร้อนกว่าจะขึ้นสูงจากพื้นผิวโลก และนำ PM2.5 ลอยไปด้วย ทางกลับกันปรากฎการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นในฤดูหนาว ดังนั้นระดับ PM2.5 ในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยก็สูงขึ้นเช่นกัน และฤดูเผาไหม้ก็มักจะเกิดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นปัญหาที่ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบเฉพาะต่อภาคเหนือของประเทศไทย

เกี่ยวกับ Smart Air

Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์

อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ

บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา

Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ

ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม