จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาทำให้หลายคนสงสัยว่าหน้ากากดักจับโคโรนาไวรัสได้หรือไม่ และคงจะมากเกินไปหน่อยที่จะขอให้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหน้ากากในชั่วข้ามคืน
มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันมากมายว่าหน้ากากอนามัยดักจับไวรัสโคโรนาหรือไม่ สื่อต่างๆ เช่น วิทยุสาธารณะแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาอ้างว่ากรองไม่ได้ แต่โชคดีที่นักวิทยาศาสตร์ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับหน้ากากและป้องกันมลพิษทางอากาศได้จำนวนมากก่อนหน้านี้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นี่แหละที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้
ไวรัสโคโรนาใหญ่ขนาดไหน
อันดับแรก: เราต้องรู้ก่อนว่าไวรัสโคโรนาใหญ่ขนาดไหน นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเพื่อวัดขนาดของไวรัสโคโรนา พบว่าไวรัสโคโรนา (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ “virions”) มีลักษณะเป็นทรงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.125 ไมครอน (125 นาโนเมตร) อนุภาคที่เล็กที่สุดคือ 0.06 ไมครอนและที่ใหญ่ที่สุดคือ 0.14 ไมครอน
นั่นหมายความว่าไวรัสโคโรนามีขนาดเล็กกว่า PM2.5 แต่ใหญ่กว่าฝุ่นละอองและแก๊สบางชนิด
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าโคโรนาใหญ่ขนาดไหน แล้วหน้ากากอนามัยดักจับไวรัสโคโรนาได้รึป่าว เราจะแบ่งคำถามนี้ออกเป็นสองข้อย่อยๆ
1. หน้ากากอนามัยดักจับไวรัสโคโรนา ได้หรือไม่
กรณีสงสัย:
ท่ามกลางการระบาดผู้คนมากมายเชื่อว่า: ไวรัสโคโรนา (และไวรัสอื่น ๆ ที่มีขนาดเท่าๆกัน) มีขนาดเล็กและหน้ากากก็บางมาก จึงไม่สามารถดักจับไวรัสขนาดเล็กอย่างโคโรนาได้ Business Insider ใช้ความเข้าใจนี้ในการเขียนบทความและยังอ้างอีกว่า “หน้ากากอนามัยอาจใช้ป้องกันไม่ได้”
ไวรัสโคโรนา & ไลฟ์ทดสอบหน้ากาก
หากคุณสงสัยว่าหน้ากากอนามัยดักจับไวรัสโคโรนาได้จริงหรือไม่ สามารถคลิกเพื่อดูไลฟ์สตรีมย้อนหลังการได้ที่นี่
การทดลองทางวิทยาศาสตร์:
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Edinburg ได้ทดสอบหน้ากากอนามัยทั่วไปที่แตกต่างกัน โดยใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล (เพื่อเลียนแบบไอเสียรถยนต์) และท่อไอเสียผ่านหน้ากาก และใช้เครื่องวัดค่าฝุ่นเพื่อดูปริมาณฝุ่นที่ผ่านทะลุหน้ากากอนามัย ภาพด้านล่างนี้คือการจัดเตรียมอุปกรณ์การทดสอบ
อีกข้อมูลที่สำคัญ: เครื่องอ่านค่าฝุ่นที่ใช้สามารถอ่านได้แม้อนุภาคมีขนาดเล็กถึง 0.007 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของไวรัสโคโรนากว่า 10 เท่า
จากการทดสอบหน้ากากอนามัยหลากหลายประเภท นี่คือสิ่งที่ค้นพบ:
แผ่นกรองอุตสหกรรมของ 3M สามารถดักจับอนุภาคได้ถึง 95% แม้อนุภาคมีขนาดเล็กกว่า 0.007 ไมครอน สื่อหลายแห่งอ้างว่าหน้ากากอนามัยดักจับอนุภาคนาโนไม่ได้ แต่น่าแปลกใจอย่างยิ่งที่หน้ากากอนามัยกลับดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 80%
อนุภาคขนาดเล็กที่ว่าคืออนุภาคจากท่อไอเสียรถยนต์ ข้อมูลเกี่ยวกับอนุภาคของไวรัสอาจจะต่างกันก็ได้ใช่ไหมล่ะ เพราะเหตุนั้นเราจึงศึกษาเพิ่มเติมแล้วพบว่านักวิจัยได้ทดลองยิงไวรัสเข้าสู่หน้ากากอนามัย N95 ผลลัพธ์ที่ออกมาพบว่าหน้ากากอนามัยดักจับไวรัสได้ถึง 95% เลยทีเดียว
แม้แต่หน้ากากที่มีประสิทธิภาพต่ำยังสามารถดักจับไวรัสได้กว่า 90% นักวิจัยเลือกทดสอบโดยใช้หน้ากาก N95 สองแบบที่ให้ผลลัพธ์ไม่ดีนักจากการทดสอบอื่นๆก่อนๆหน้า ถึงผลลัพธ์จากการทดลองอื่นสรุปออกมาว่ามีประสิทธิภาพต่ำ แต่อัตราการดักจับอนุภาคยังอยู่ที่ 94% ด้วยซ้ำ
สรุป: หน้ากากอนามัย – ทั้งแบบทั่วไปและหน้ากาก N95 – สามารถดักจับไวรัสได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าไวรัส 10 เท่าได้อีกด้วย
“เรายอมรับว่าหน้ากากดักจับไวรัสได้ก็จริง แต่เวลาที่ใส่หน้ากากเข้าจริงแล้ว อากาศมันเข้าทางด้านข้างด้วยไม่ใช่หรอ”
กรณีสงสัย:
หน้ากากอนามัยดูจะใช้ได้ดีเลยทีเดียวตามทฤษฎีและการทดลอง แต่การทดลองไม่ได้กระทำโดยใช้คนจริง อย่างงั้นเวลาเราใส่หน้ากากมันก็ไม่ได้เป๊ะเหมือนการทดลอง เท่ากับว่าที่ทดลองไปก็เป็นศูนย์รึป่าว?
การทดลองทางวิทยาศาสตร์:
ในการตอบคำถาม จำเป็นต้องมีเครื่องทดสอบความพอดีของหน้ากาก ซึ่งมีราคาแพงมาก แต่โชคดีที่เราจัดหาเครื่องทดสอบมาได้ เพื่อทำการทดสอบหน้ากากต่างๆโดยเฉพาะ
ท่อสีน้ำเงินคือตัวอย่างอากาศภายนอกหน้ากาก ส่วนท่อสีขาวคือตัวอย่างอากาศจากภายใน (รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทดสอบความพอดีของหน้ากาก)
Anna Guo ผู้ร่วมก่อตั้ง Smart Air และ ดร. Richard Saint Cyr จากปักกิ่งต่างทำการทดสอบ และรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน ข้อมูลด้านล่างนี้แสดงให้เห็นว่าหน้ากากอนามัยมีประสิทธิภาพการทำงานแค่ไหนเมื่อสวมใส่จริง:
หน้ากาก 3M หลายๆรุ่นสามารถดักจับอนุภาคเล็กๆกว่า 0.01 ไมครอนได้มากถึง 99% แม้ขณะสวมใส่ (เล็กกว่าไวรัสโคโรนาถึง 10 เท่า) ยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยยังสามารถดักจับไวรัสขนาดเล็กมากๆได้ถึง 63%
สรุป:
หน้ากากอนามัยสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.007 ไมครอน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าไวรัส 10 เท่าและมีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลาง PM2.5 มาก ยิ่งไปกว่านั้นยังทำงานได้ดีจนน่าประหลาดใจแม้ขณะสวมใส่ ประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยทั่วไปไม่อาจเทียบเท่ากับหน้ากาก N95 แต่มีราคาถูกกว่าและหาได้ง่ายกว่า จึงนับเป็นทางเลือกที่ดีเมื่อหน้ากากอย่าง N95 ขาดตลาด
ปกป้องคุณและคนที่คุณรักได้อย่างไร
Smart Air เป็นบริษัท B Corp หรือธุรกิจเพื่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และได้รับใบประกาศรับรอง เรามีภารกิจที่จะต่อสู้กับบริษัทใหญ่ๆ ที่ใช้ช่องโหว่ด้านข้อมูลในการเพิ่มราคาในการสร้างอากาศสะอาด
Smart Air นำเสนอข้อมูลจากการทดลองอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากอนามัย และแสดงให้เห็นว่าเครื่องฟอกอากาศราคาหลักพันหรือแสนก็ให้อากาศที่สะอาดเท่ากัน อากาศสะอาดที่เป็นเรื่องหรูหราไม่ได้ผลิตมาเพื่อผู้บริโภค แต่มีเพียงบริษัทเท่านั้นที่ได้กับได้
เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองกรอง HEPA สามารถดักจับอนุภาคของแข็งได้แทบทุกขนาด รวมถึงอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.1 ไมครอนหรือขนาดเดียวกับไวรัสโคโรนานั่นเอง
ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Sqair