เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรอง HEPA มีประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโควิด 19 และไวรัสอื่นๆสูง
อย่างไรก็ตามไวรัสสามารถอยู่บนพื้นผิวได้เป็นเวลานานจนน่ากลัว ยิ่งให้นึกว่ามีไวรัสเกาะอยู่ในเครื่องฟอกอากาศก็ฟังดูน่าขนลุกเลยทีเดียว จึงมีการพาดหัวข่าวพูดถึงการเกาะตัวของไวรัสบนพื้นผิวอยู่ให้เห็นบ่อยครั้ง
แต่ไวรัสที่ “ตรวจพบ” ต่างจากไวรัสที่ “ยังมีชีวิตอยู่” อย่างมาก ไวรัสที่ทำงานได้คือไวรัสที่ยังมีชีวิตอยู่และยังสามารถแพร่เชื้อให้กับใครบางคนได้ ไวรัสที่ “ตรวจพบได้” นั้นเป็นเพียงนั้น – ตรวจพบได้ แต่ตายแล้ว
ไวรัสโคโรน่าอยู่บนแผ่นกรอง HEPA ได้นานแค่ไหน
ในการตอบคำถามนี้ เราต้องพิจารณาว่าไวรัสจะคงอยู่ในแผ่นกรอง HEPA ได้นานแค่ไหน ซึ่งมีแนวโน้มว่าไวรัสที่ตายแล้วจะยังคงติดอยู่ในแผ่นกรอง HEPA เป็นเวลานาน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือระยะเวลาที่ไวรัสยังมีชีวิตและสามารถแพร่เชื้อได้อยู่
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงทำการทดสอบเพื่อหาว่าไวรัสจะมีชีวิตได้นานแค่ไหนเมื่ออยู่บนพื้นผิวที่แตกต่างกัน 6 แบบ เขาพ่นไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 บนวัสดุในครัวเรือนทั่วไป เช่น พลาสติก ไม้ และเหล็ก และการทดสอบพบว่าไวรัสมีชีวิตได้นานถึง 24 ชั่วโมง
แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีการทดสอบกับแผ่นกรอง HEPA ในการวิจัยดังกล่าว อย่างไรก็ดีวัสดุที่ใช้ทดสอบกลับมีความคล้ายเคียงกัน เช่น ผ้าเจ (J-cloth) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับวัสดุไฟฟ้าสถิตที่ใช้ในแผ่นกรอง HEPA อย่างมาก
ผลการทดสอบของผ้าเจที่คล้ายกับ HEPA พบว่าไวรัสไม่สามารถอยู่ได้แบบสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ยังคงมีชีวิตได้ยาวนานที่สุดบนพื้นผิวที่แข็งและไม่มีรูพรุน เช่น สแตนเลสและพลาสติก อย่างไรก็ตาม ไข้หวัดใหญ่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 10 ชั่วโมง แม้ว่าจะอยู่บนพื้นผิวที่รอดได้นานที่สุดก็ตาม นั่นคือสแตนเลส นักวิจัยจึงสรุปได้ว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 “มีแนวโน้มที่จะอยู่รอดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น”
นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มในสหราชอาณาจักรได้ทดสอบการทำงานของไวรัสหลายชนิดในตัวกรอง HEPA รวมถึงเชื้อ Bacillus atrophaeus และ MS-2 coliphage โดยการพ่นไวรัสบนแผ่นกรอง HEPA จากนั้นจึงปล่อยลมผ่านแผ่นกรองในอัตราคงที่เพื่อจำลองการใช้แผ่นกรอง HEPA
จากการทดลองดังกล่าวพบว่าไวรัสส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 2 วัน อย่างไรก็ตามจากการพิสูจน์ ไวรัส MS-2 coliphage ซึ่งเป็นไวรัสเปลือยสามารถอยู่รอดได้นานกว่าไวรัสมีเปลือกหุ้ม โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 6 วัน (ในขณะเดียวกันไวรัสโคโรน่าเป็นไวรัสมีเปลือกหุ้ม ซึ่งต่างจากไวรัส MS-2 coliphage)
จะเหมือนกันหรือไม่ ในกรณีของโคโรน่าบน HEPA
การวิจัยข้างต้นเป็นการทดสอบของ H1N1 (ไข้หวัดใหญ่ A) ไม่ใช่ coronavirus ซึ่งมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่กล่าวถึงระยะเวลาที่ไวรัสโคโรน่ามีชีวิตอยู่ได้
CDC กล่าวว่าโคโรน่าอาจยังคงทำงานได้หลายชั่วโมงหรือเป็นวัน โดยการวิจัยที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ (ยังไม่ได้เผยแพร่อย่างเป็นทางการ) ทดสอบความสามารถในการดำรงชีวิตของไวรัสโคโรน่าใหม่ (HCoV-19) และโคโรน่า “เก่า” (SARS-CoV-1) โดยพ่นไวรัสทั้งสองตัวลงบนพลาสติก สแตนเลส ทองแดง และกระดาษแข็ง
แม้ว่าการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้ทดสอบแผ่นกรอง HEPA หรือวัสดุผ้า แต่ก็มีวัสดุที่ใกล้เคียงที่สุดกับพื้นผิวแผ่นกรอง HEPA นั่นก็คือ กระดาษแข็ง โดยพบว่าต้องใช้เวลาถึง 48 ชั่วโมงกว่าจนไวรัสโคโรน่าไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนกระดาษแข็ง ในส่วนของสแตนเลสมีไวรัสโคโรน่าจำนวนเล็กน้อยที่ยังคงอยู่ถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งผลลัพธ์ครั้งนี้นับว่ายาวนานกว่าการวิจัยของไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ถึง 7 เท่า
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เราต้องทราบเกี่ยวกับการวิจัยที่ปฏิบัติในห้องแลบคืออาจมีการจำลองไวรัสในปริมาณที่สูงกว่าที่เราสามารถพบได้ในสถานการณ์จริง นั่นหมายความว่าตัวเลขที่ออกมาอาจเกินจริงไปด้วย ซึ่งเป็นไปตามที่อธิบายไว้ในเอกสารฉบับหนึ่งเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกินจริงของการแพร่กระจายของโควิด 19
ยิ่งไปกว่านั้น ไวรัสชอบวัสดุเปียก จึงไม่สามารถอยู่รอดได้นักบนวัสดุแห้ง สำหรับแผ่นกรอง HEPA จะมีการไหลเวียนของอากาศด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเป็นการทำงานของเครื่องฟอกอากาศทั่วไป เหตุนี้จึงทำให้ไวรัสแห้งง่ายยิ่งขึ้น
อ้างอิงจากข้อมูลนี้ จะเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้เลยที่ไวรัสโคโรน่าจะอยู่บนพื้นผิวแผ่นกรอง HEPA ได้นานกว่า 2-3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเราก็ควรระวังอยู่เสมอ และจากการวิจัยทั้งสองนี้ ระยะเวลาที่ใช้ในการฆ่าเชื้อไวรัส ในแผ่นกรอง HEPA อยู่ที่ประมาณ 48-72 ชั่วโมง
สรุป
ไวรัสโคโรน่า, SARS และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มักจะตายภายใน 48 ชั่วโมง บนพื้นผิวต่างๆ ไวรัสเปลือย (MS-2 coliphage) สามารถอยู่ได้นานถึง 6 วันบนแผ่นกรองกรอง HEPA อย่างไรก็ตามไวรัสโคโรน่าซึ่งเป็นไวรัสมีเปลือกหุ้มก็ไม่น่าจะอยู่ได้นานขนาดนี้ เราจึงประมาณระยะเวลาการอยู่รอดของไวรัสโคโรน่าในแผ่นกรอง HEPA ได้เป็น 48-72 ชั่วโมง
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม