โรคโควิด-19 นั้นทำให้ความสนใจเกี่ยวกับวิธีทำความสะอาดและฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยนั้นเพิ่มมากขึ้น การเสิร์ชกูเกิ้ลหาคำว่า “ซักหน้ากาก N95” และ “ทำความสะอาดหน้ากาก N95” นั้นสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
ทว่าคำตอบที่ได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลก็ยังมีไม่มากนัก ไกด์ไลน์มาตรฐานก็แจ้งให้นำไปทิ้งและใช้อันใหม่ซึ่งก็หมายความว่าไม่แนะนำให้ซักนั่นเอง
แต่ไกด์ไลน์มาตรฐานนั้นไม่เป็นประโยชน์มากนักในเวลาที่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์และหน้ากาก N95 กำลังขาดแคลน ในโพสต์นี้ เรามาดูวิธีการซักทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่ถูกต้องกัน
การซักหน้ากาก N95: ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
คำแนะนำที่ง่ายที่สุดที่เราเคยเห็นก็คือการซักหน้ากากด้วยน้ำและสบู่ อย่างไรก็ตาม การทดสอบนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าการซักหน้ากาก N95 ด้วยน้ำนั้นทำให้ประสิทธิภาพการกรองของมันลดลง
การใช้แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อบนหน้ากาก: ประสิทธิภาพลดลง
การฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์นั้นอาจได้ผลดีกว่าการซักด้วยน้ำหรือเปล่า เพราะว่าการใช้แอลกอฮอล์ไม่จำเป็นต้องซักถูหน้ากากใช่ไหม? น่าเสียดายที่การทดลองนั้นเผยให้เห็นว่าการจุ่มหน้ากาก N95 ลงไปในแอลกอฮอล์นั้นทำให้ประสิทธิภาพการดักจับอนุภาคนั้นลดลงไปถึง 37%
ถ้าการซักด้วยน้ำและแอลกอฮอล์นั้นไม่เวิร์ค ดังนั้นพวกเราก็ต้องหาวิธีทำความสะอาดหน้ากากที่ได้ผลดีโดยไม่ทำลายประสิทธิภาพการทำงานของหน้ากาก
วิธีการฆ่าเชื้อโรคบนหน้ากาก N95 ที่เชื่อถือได้
ในช่วงเวลาที่เรากำลังตื่นตระหนกอยู่นั้นเรามักจะอยากทำอะไรสักอย่าง แต่หารู้ไม่ว่าหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการฆ่าเชื้อบนหน้ากากนั้นคือการไม่ต้องทำอะไรเลย! เพียงแค่รอให้หน้ากากแห้งเองเท่านั้นไวรัสก็ตายแล้ว
แต่คำถามสำคัญที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องการรู้ก็คือ ต้องปล่อยหน้ากากไว้ให้แห้งนานแค่ไหนถึงจะปลอดภัย คำถามที่ว่าไวรัสนั้นมีชีวิตได้นานเท่าไหร่นั้นสำคัญเป็นอย่างมากเพราะว่าการศึกษาจากหลายๆที่นั้นวัดดูว่าไวรัสนั้นสามารถถูก “ตรวจพบ” ได้หรือไม่
ไวรัสนั้นสามารถถูกตรวจพบได้เป็นเวลานานมากๆจนน่ากลัว ซึ่งทำให้มีการพาดหัวข่าวมากมายว่าไวรัสนั้นอยู่ได้นานแค่ไหน แต่การถูก “ตรวจพบ” ได้นั้นแต่งต่างอย่างมากจากการ “มีชีวิตอยู่” ของไวรัส การมีชีวิตอยู่นั้นมีความสำคัญกับผู้ใช้หน้ากากมากกว่าเพราะการมีชีวิตอยู่นั้นหมายความว่ามันยังสามารถทำให้ผู้อื่นติดเชื้อได้อยู่
การฆ่าเชื้อบนหน้ากากใช้เวลานานแค่ไหน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกง (University of Hong Kong) ได้ทำการทดลองว่าไวรัสนั้นสามารถรักษาความสามารถในการแพร่เชื้อได้นานแค่ไหนบนพื้นผิวของวัสดุต่างๆ พวกเขาได้พ่นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ลงไปบนวัสดุในครัวเรือนต่างๆหกชนิดเพื่อทดสอบการมีชีวิตอยู่ของมันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ทำการทดสอบนี้กับหน้ากาก แต่สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่พวกเขาได้ทำการทดสอบก็คือผ้า J-cloth (ใช้ในการทำความสะอาดทั่วไป) วัสดุของผ้า J-cloth นั้นค่อนข้างคล้ายกับวัสดุไฟฟ้าสถิตที่ใช้ในหน้ากาก
การทดสอบนี้ทำให้เห็นว่าเชื้อไวรัสนั้นไม่สามารถมีชีวิตได้เกิน 5 ชั่วโมง
เชื้อไวรัสนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุดบนพื้นผิวแข็งที่ซึมไม่ได้ อย่างเช่น เหล็กสแตนเลส และพลาสติก ถึงอย่างนั้นก็ตาม เชื้อไวรัสก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมงบนพื้นผิวที่อันตรายที่สุดอย่างสแตนเลส นักวิจัยจึงได้สรุปว่าเชื้อ H1N1 นั้นมีแนวโน้มที่จะอยู่รอดเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ดังนั้นแล้วการปล่อยให้หน้ากากแห้งเองก็ควรจะฆ่าเชื้อไวรัสได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้หน้ากากเสื่อมสภาพด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์
การปล่อยหน้ากากให้แห้งจะได้ผลกับ Covid19 หรือไม่
การศึกษาข้างบนนี้เป็นการทดสอบกับเชื้อ H1N1 (influenza A) ไม่ใช่เชื้อไวรัสโคโรน่า นักวิจัยได้กล่าวว่าผลลัพธ์นี้ควรจะคล้ายคลึงกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ influenza A อื่นๆ แต่พวกเขาไม่ได้กล่าวว่ามันจะใช้ได้กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งหมด
มีข้อมูลเพียงน้อยนิดว่าเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้กล่าวว่าไวรัสโคโรน่านั้นอาจมีชีวิตอยู่ได้หลายชั่วโมงหรือเป็นวันๆเลยทีเดียว มีการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ (ยังไม่ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ) ที่ได้ทำการทดสอบการมีชีวิตอยู่ของไวรัสโคโรน่าตัวใหม่ (HCoV-19) และไวรัสโคโรน่าตัวเก่าหรือ SARS (SARS-CoV-1) โดยที่พวกเขาได้ทำการฉีดพ่นเชื้อไวรัสทั้งสองชนิดลงบนพลาสติก สแตนเลส ทองแดง และกระดาษแข็ง
พวกเขาไม่ได้ทดลองกับผ้า แต่วัสดุที่ใกล้เคียงที่สุดกับหน้ากากก็คือกระดาษแข็งซึ่งใช้เวลาไป 48 ชั่วโมงกว่าไวรัสโคโรน่าจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ บนสแตนเลสยังคงมีเชื้อไวรัสโคโรน่าหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยหลังจากผ่านไป 72 ชั่วโมง ซึ่งยาวนานกว่าการศึกษาก่อนหน้ากับเชื้อ H1N1 ถึง 7 เท่า
จากการศึกษาทั้งสองนี้ แปลได้ว่าการปล่อยหน้ากากให้แห้งเป็นเวลา 48 ชั่วโมงก็ควรจะเพียงพอแล้วที่จะฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า SARS และไข้หวัดใหญ่ influenza A หากปล่อยไว้ 72 ชั่วโมงก็จะยิ่งปลอดภัยขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ระยะเวลาการอยู่รอดของเชื้อไวรัสนั้นไม่ใช่ค่าคงที่สากลอย่างเช่นความเร็วแสง มีปัจจัยหลายประการที่จะส่งผลต่อระยะเวลาการอยู่รอดของเชื้อไวรัส:
- เชื้อไวรัสนั้นสามารถอยู่รอดได้นานขึ้นในอุณภูมิที่ต่ำกว่า มีการศึกษาที่พบว่าเชื้อไวรัสนั้นตายที่อุณภูมิ 20C เร็วกว่าที่อุณภูมิ 4C และยิ่งเร็วขึ้นไปอีกที่อุณภูมิ 40C
- มีหลายๆการศึกษาที่พบว่าเชื้อไวรัสนั้นมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวที่เปียกได้นานกว่ามากเมื่อเทียบกับพื้นผิวที่แห้ง
การทิ้งหน้ากากให้แห้งมีแนวโน้มที่จะฆ่าเชื้อไวรัส โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาได้บอกพยาบาลในโรงพยาบาลให้เก็บหน้ากากของพวกเขาไว้ในถุงพลาสติกซึ่งนั่นจะทำให้หน้ากากไม่แห้งและเชื้อไวรัสมีอายุยืนยาวขึ้น
สรุป
การปล่อยหน้ากากไว้ให้แห้งควรฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า SARS และไข้หวัดใหญ่ influenza A ได้ภายใน 48 ชั่วโมง จะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากทิ้งไว้ 72 ชั่วโมง
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม