เครื่องฟอกอากาศ Dyson Pure Cool อาจดูเป็นเครื่องที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์เกี่ยวกับอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์(ค่าCADR) แสดงให้เห็นว่าแผ่นกรองของมันทำหน้าที่ได้แย่มาก ค่าCADR ของDyson TP05 Pure Cool อยู่ที่ 164ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าประสิทธิภาพการทำงานของมันมีเทียบเท่าเครื่องฟอกอากาศ DIYที่ราคาประมาณ 656บาทเท่านั้น

รีวิว Dyson Pure Cool Air Purifier
ตอนที่Dyson เริ่มวางขายเครื่องฟอกอากาศ Dyson Pure Cool Airใหม่ๆ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นเทคโนโลยีล้ำสมัยหรือการออกแบบที่มีประสิทธิภาพของพวกเขา แต่สิ่งที่ผมพบนั้นค่อนข้างผิดหวัง เพราะ Dysonไม่ได้เปลี่ยนเครื่องฟอกอากาศ แต่พวกเขาเพียงแค่เปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดของเครื่องฟอกอากาศเท่านั้นเอง
แต่บางทีผมอาจไม่ควรต้องตกใจไป เพราะท้ายที่สุดแล้วเครื่องฟอกอากาศก็เป็นเพียงแค่พัดลมกับแผ่นกรองเท่านั้น มันเป็นเทคโนโลยีง่ายมากจนใครๆก็สามารถทำแบบDIYขึ้นมาเองได้

แต่เมื่อเครื่องฟอกอากาศDysonมีผลลัพธ์ที่แย่มากในแง่ของการทดสอบมาตรฐานของโรงงานอตุสาหกรรม Dysonก็เริ่มที่จะทำการวิจารณ์การทดสอบของมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมว่าเป็น อัตราการแลกเปลี่ยนอากาศบริสุทธิ์(ค่าCADR) รูปด้านล่างนี้คือวิธีการทำการทดสอบ

แน่นอนว่าการทดสอบCADRอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด(เพราะการทดสอบCADRถูกทำขึ้นในห้องแลป ไม่ใช่ในห้องที่เราใช้ชีวิตจริง) แต่อย่างไรก็ตามการที่Dyson ออกมาวิจารณ์เรื่องการทดสอบCADRก็เหมือนจะเลยเถิดเกินไป นอกจากผลลัพธ์การทดสอบของDyson Pure Coolจะออกมาต่ำกว่ามาตรฐานCADRแล้ว Dysonได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดโดยการใช้การทดสอบของตนเองเพื่อที่จะทำให้เครื่องฟอกอากาศของพวกเขาเหมือนจะทำงานได้ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม Dysonเข้าใจผิดเกี่ยวกับCADRบางอย่าง ดังนั้นเราจะมาอธิบายให้ชัดเจนมากขึ้น
3 ข้อเท็จจริงที่ Dyson เข้าใจผิดเกี่ยวกับ CADR
Dyson อ้างขึ้นเพื่อปกป้องเครื่องฟอกอากาศPure Coolและผลิตภัณฑ์อื่นๆของพวกเขาที่ได้รับมาตรฐานCADRต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ข้ออ้างเหล่านั้นของพวกเขาเป็นการลดความน่าเชื่อถือของมาตรฐานโรงงานเครื่องฟอกอากาศนั้นเป็นสิ่งที่ผิด
ข้ออ้าง #1 ของ Dyson: ค่า CADR ไม่ได้เน้นไปที่ขนาดของอนุภาคที่ต่างกัน
เว็บไซต์ของDyson อ้างว่าค่าCADRไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศที่ดักจับขนาดอนุภาคที่ต่างกันออกไป ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิด มาตรฐานในการทดสอบค่าCADR มีอยู่2มาตรฐาน คือ มาตรฐานAHAM ของประเทศอเมริกา และมาตรฐาน GB-18801ของประเทศจีน มาตรฐานของประเทศอเมริกาทำการทดสอบอนุภาคที่มีขนาดต่างกันถึง3ช่วง ซึ่งแบ่งออกเป็น ฝุ่น เกสรและควัน
Particle Name | Particle Size Range |
Smoke (Tobacco) | 0.09 – 1.0 microns |
Dust | 0.5 – 3.0 microns |
Pollen | 0.5 – 11 microns |
มาตรฐานGB-18801ของประเทศจีนได้ทำการทดสอบและรายงานประสิทธิภาพของแผ่นกรองสำหรับอนุภาคขนาด 0.30-10ไมครอนเช่นกัน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่อนุภาคขนาดเล็กที่สุดที่ถูกจับยากที่สุดอย่างขนาด 0.3ไมครอนไปจนถึงขนาดอนุภาคขนาดใหญ่อย่างอนุภาคฝุ่นและเกสร และนี่คือผลลัพธ์การทดสอบค่าCADRของเครื่องฟอกอากาศ Sqair ของ Smart Air

สรุป
การทดสอบCADR สามารถบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคแต่ละขนาดได้
ข้ออ้าง #2 ของ Dyson: ค่า CADR ไม่ได้วัดถึงประสิทธิภาพในการกรอง
ข้ออ้างนี้ถูกต้อง แต่ผิดประเด็น ซึ่งมีอยู่ 2วิธีหลักๆในการอธิบายถึงประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ
- เปอร์เซนต์ในการกรองมีเท่าใดเมื่ออากาศไหลผ่านแผ่นกรอง
- เปอร์เซนต์ของอนุภาคอากาศในห้องลดลงเท่าไหร่เมื่อเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศในเวลาที่กำหนด

ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศDyson Pure Coolเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานกังวลมากที่สุด และนั่นคือสิ่งที่การทดสอบCADRวัดถึง มันมีการทดสอบอย่างอย่างเป็นทางการที่แยกออกไปอีกอันหนึ่งสำหรับการกรองครั้งเดียว ซึ่งก็คือ การทดสอบEN1822

เพิ่มเติม:EN1822 เป็นสิ่งที่เอาไว้กำหนดมาตรฐานแผ่นกรองHEPAเช่นเดียวกันกับH13ที่เราเห็นกันอยู๋บ่อยๆ หากว่าเราต้องการจะทราบถึงประสิทธิภาพในการกรองของอากาศไหลผ่านครั้งเดียว ดังนั้นเราควรเน้นไปที่เกณฑ์ของแผ่นกรองHEPA (H13/H14)
ดังนั้น ข้ออ้างนี้ก็เปรียบเสมือนการวิจารณ์การแข่งขันบาสเกตบอลที่ไม่ได้วัดถึงความสามารถในการดังก์บอลแต่เป็นการทำคะแนน เพราะถ้าหากว่าคุณเน้นไปที่การดังก์ คุณก็ควรจะไปให้ความสนใจการแข่งดังก์อย่างเดียว ซึ่งนั่นไม่ใช่จุดประสงค์หลักของการแข่งขันบาสเกตบอล

สรุป
การทดสอบCADR เป็นการทดสอบความสามารถในการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ แต่ถ้าหากเราอยากทราบถึงประสิทธิภาพในการทำงานของแผ่นกรองHEPA เราควรใช้มาตรฐานEN1822ในการวิเคราะห์แทน
ข้ออ้าง #3 ของDyson: ค่า CADR ใช้วัดแค่อนุภาคเพียงอย่างเดียว
นี่เป็นสิ่งที่ผิด ยิ่งไปกว่านั้น Dysonยังถกเถียงกันเองในหัวข้อนี้เลย ในเว็บไซต์ภาษาอังกฤษของDysonได้กล่าวไว้ว่า การทดสอบCADRนั้นเอาไว้วัดอนุภาค แต่ในเว็บไซต์ภาษาจีนของพวกเขา (หน้าเพจTmall) กลับให้ข้อมูลไว้ว่าค่าCADRเอาไว้บ่งบอกถึงก๊าซเบนซินและฟอร์มาลดีไฮด์

การทดสอบCADR GB-18801 นั้นคลอบคลุมถึงการทดสอบก๊าซอินทรีย์ระเหยง่าย(VOC) เช่น เบนซินและฟอร์มาลดีไฮด์ด้วยเช่นกัน
มันอาจเป็นไปได้ว่า Dysonนั้นอ้างถึงการทดสอบของประเทศอเมริกา(AHAM)เพียงเท่านั้น และมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเพราะว่าการทดสอบAHAMนั้นไม่ได้เจาะจงว่าเป็นการทดสอบสำหรับก๊าซถึงแม้ว่าEPAได้อธิบายไว้ว่ามันสามารถใช้ในการทดสอบได้

สรุป: เครื่องฟอกอากาศ Dyson และการอ้างถึงค่า CADR
การทดสอบ CADR นั้นอาจมีข้อผิดพลาดบางประการ ข้อแรกเลยก็คือพวกเขาไม่ได้ทำการทดสอบในห้องที่เหมือนมีคนอาศัยอยู่จริงๆ และการที่Dysonได้ทำการโปรโมตการทดสอบในห้องที่ใช้จริงนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก เหมือนกับที่Smart Airได้ทำไว้ แต่อย่างไรก็ตาม การทดสอบCADRก็ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการความรู้ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศและควรเป็นที่นำไปใช้ต่อไป

หาก Dyson กำลังอ่านบทความนี้อยู่ พวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง
#1- เปิดใจรับรู้เกี่ยวกับค่าCADRของเครื่องฟอกอากาศPure Coolและผลลัพธ์ internal test
ข้อมูลเกี่ยวกับCADRไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ของDysonเลย ถ้าหากว่าพวกเขาให้ข้อมูลนี้พร้อมกับผลลัพธ์internal testของพวกเขา บางทีลูกค้าอาจมีข้อมูลมากพอที่จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ในการที่จะหา CADRของPure coolนั้น เราต้องเสาะหารายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ภาษาจีนของDyson เพราะในประเทศจีนมีกฏหมายว่าบริษัทเครื่องฟอกอากาศต้องบอกถึงผลลัพธ์ CADR ของสินค้า ในหน้าเพจTmallด้านล่างสุด เราพบว่าอนุภาคของ TP05นั้นมีค่าCADRอยู่ที่ 164ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และค่าCADR ของฟอร์มาลดีไฮด์อยู่ที่ 56ลูกบาศ์กเมตรต่อชั่วโมง

#2- เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทดสอบ TM-003711 ภายในของ Dyson
คุณ David Hill วิศวกรของ Dyson กล่าวไว้ว่า “เราเชื่อว่าเครื่องฟอกอากาศทุกเครื่องควรได้รับการทดสอบนี้ (วิธีการทดสอบของDyson)” ถ้าหากว่าการทดสอบของDyson ดีกว่าค่าCADRจริง การที่จะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบต่อสาธารณะก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับทุกคน
อัปเดต: Dysonได้ติดต่อเรามาเพื่อแจ้งให้ทราบว่าพวกเขาได้เผยแพร่วิธีการทดสอบแล้ว(ถึงแม้ว่าจะเป็นในรูปแบบภาษาจีนอย่างเดียว) แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการทดสอบนี้ใช้ทดสอบเพียงแค่ ‘Smart mode’ของเครื่องฟอกอากาศ หรือถ้าพูดอย่างเจาะจงมากขึ้นคือ มันทดสอบได้เพียงแค่มอนิเตอร์วัดคุณภาพอากาศที่ถูกสร้างเพิ่มเข้าไปในเครื่องฟอกอากาศว่ามีความแม่นยำเท่าใดเท่านั้น ซึ่งมันเป็นการทดสอบคนละแบบกันกับการทดสอบประสิทธิภาพการกรอง และนั่นหมายความว่ามันไม่ควรนำมาใช้แทนค่าCADR แต่ควรนำไปใช้เป็นเพียงแค่การทดสอบเพิ่มเติมของเครื่องฟอกอากาศที่มีมอนิเตอร์ัดคุณภาพอากาศเท่านั้น

อัปเดต: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2021
Dyson ได้ติดต่อเรามาเพื่อที่จะขยายความให้ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับCADRกับเครื่องฟอกอากาศของพวกเขา:
เราไม่ได้พัฒนาเครื่องฟอกอากาศของเราให้สามารถทำงานได้ตรงตามการทดสอบนี้ (CADR) เนื่องจากว่าเราไม่เชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของเรา แต่อย่างไรก็ตาม เรามีความต้องการที่จะเลือกพัฒนาเครื่องฟอกอากาศให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดั่งการใช้งานจริงในบ้าน หรือทำงานได้ตรงตามการทดสอบที่เหมือนกับการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่า

เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องทุกขนาด
Smart Air Thailand ขอเสนอเครื่องฟอกอากาศหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา รุ่น QT3 เครื่องฟอกอากาศภายในบ้านขนาดไม่เกิน 40 ตร.ม. รุ่น Sqair หรือเครื่องฟอกาอากาศขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 100 และ 140 ตร.ม. เหมาะสำหรับออฟฟิศและโรงพยาบาล อย่างรุ่น Blast Mini และ Blast