คำถามที่คนส่วนมากถามผมอยู่บ่อยๆก็คือ แผ่นกรองHEPA มีอายุการใช้งานนานเท่าใด
คำถามนี้เป็นคำถามที่สำคัญมากเพราะว่าการเปลี่ยนแผ่นกรองHEPAเป็นการเสียค่าใช้จ่ายระยะยาวเพื่ออากาศที่สะอาดกว่า ทางIQ Airคิดราคาแผ่นกรองของพวกเขาอยู่ที่ 370ดอลลาร์ ดังนั้นถ้าหากว่าคุณต้องเปลี่ยนแผ่นกรองHEPAในทุกๆ2อาทิตย์ การใช้เครื่องฟอกอากาศแบบDIYอาจไม่ได้ช่วยคุณประหยัดเงินซักเท่าใดในระยะยาว
ตัวเลขอายุมาตรฐานสามารถใช้ได้จริงหรือไม่
ผมอาจมาตอบคำถามนี้ช้าเกินไป แต่นั่นก็เพราะว่าผมอยากได้ข้อมูลที่ถูกต้องก่อนเพื่อใช้ในการอ้างอิง บริษัทแผ่นกรองส่วนใหญ่มักจะให้ตัวเลขกลมๆ (ส่วนใหญ่ประมาณ6เดือน)ในการตอบคำถาม แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่าตัวเลขเหล่านั้นสามารถปรับใช้ได้กับอากาศในยุโรปหรือประเทศจีนหรือประเทศใด และถ้าหากว่ามันมีอายุประมาณ6เดือนในอากาศประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผมจะยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่เลยว่ามันจะใช้งานได้นานถึง6เดือนภายใต้สภาพอากาศที่มีฝุ่นเยอะอย่างประเทศจีนได้หรือ
อีกปัญหาหนึ่งก็คือตัวเลข ”6เดือน” ไม่ได้บอกว่าคุณสามารถใช้งานมันได้มากเท่าใดในหนึ่งวัน มันคือ6เดือนเมื่อใช้งาน24ชั่วโมงต่อวัน หรือ8ชั่วโมงต่อวันกันแน่
คำตอบเชิงประจักษ์: ดังนั้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องและพิสูจน์ได้ ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือ นำแผ่นกรองHEPAอันใหม่มาทำการทดสอบประสิทธิภาพในการทำงานทุกวัน และเมื่อเวลาผ่านไปเราจะสามารถเห็นได้ว่ามันเริ่มมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงเมื่อใด
การเริ่มต้นการทดสอบนั้นอาจมีอุปสรรคเล็กน้อย เนื่องจากว่าผมกำลังยุ่งอยู่กับการทดสอบแผ่นกรองHEPAอันใหม่ รวมถึงพัดลมและเครื่องฟอกอากาศอื่นๆอีก แต่โชคดีที่คุณGus เพื่อนร่วมงานของผมได้อาสาที่จะใช้ห้องนอนของเขาเป็นห้องแลปในการทดสอบ ตอนนี้เราจึงมีข้อมูลเพียงพอที่จะใช้ในการทดสอบทั้งหมด90วันแล้ว
ข้อจำกัด: แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผมจะเอาผลลัพธ์การทดสอบให้ดู ผมพบว่ามันมีข้อบกพร่องในงานวิจัยอยู่ ขณะที่ผมกำลังดูข้อมูลของคุณGus ผมพบว่าค่าฝุ่นในห้องของเขาก่อนที่จะเปิดเครื่องฟอกอากาศนั้นมีค่าต่ำกว่าเมื่อมันอยู่ในห้องของผม ทำไมล่ะ
หลังจากนั้นเราจึงตระหนักได้ว่า เพื่อนร่วมห้องของคุณGusได้เปิดเครื่องฟอกอากาศBlue Airเป็นเวลา24ชั่วโมงต่อวัน นั่นจึงทำให้อากาศในบ้านของเขามีความสะอาดมากกว่าบ้านปกติทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามยังโชคดีที่เพื่อนร่วมห้องของเขาได้ย้ายเครื่องBlue Airออกไปจากบ้านในวันที่ 57ของการทดสอบ ดังนั้นตอนนี้เราก็มีสภาพแวดล้อมปกติที่จะสามารถทำการทดสอบได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม มันยังมีข้อจำกัดในข้อมูลนี้อยู่อีก 2 ข้อ
- มันอาจทำให้การประมาณค่าอายุการใช้งานของแผ่นกรองคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยเพราะว่าอากาศในบ้านนั้นสะอาดกว่าอากาศจริงในอาคารที่อยู่ในกรุงปักกกิ่ง
- มันทำให้การประเมินค่าประสิทธิภาพในการทำงานสำหรับ60วันแรกต่ำเกินไป (แต่อย่างไรก็ตามในท้ายบทความนี้ ผมได้ทำการเปรียบเทียบข้อมูลเมื่อเปิดใช้งานBlue Airกับเมื่อไม่ได้ใช้งาน) ดังนั้น การบอกถึงความแตกต่างเล็กๆน้อยๆของประสิทธิภาพในการทำงานแผ่นกรองจึงเป็นสิ่งที่ยาก
คุณ Gus จะเริ่มทำการทดสอบใหม่เลยหลังจากที่เราทำการทดสอบนี้สำเร็จ เพื่อให้เราจะได้มีคำตอบที่ดีและแม่นยำกว่า เรามีการอภิปรายกันก่อนว่าควรอัพโหลดบทความนี้หรือไม่ มันจะมีประโยชน์หรือไม่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมตัดสินใจว่ามันคงจะดีกว่าที่จะให้ไอเดียในเรื่องของอายุการใช้งานกับคนที่ต้องการรู้ตราบเท่าที่ผมทำให้มันมีความชัดเจนว่ามันมีข้อจำกัดในการข้อมูลที่จะเผยแพร่นี้
วิธี: คุณ Gus ได้ใช้เครื่องฟอกอากาศรุ่น Original DIY และแผ่นกรอง HEPA ที่ถูกส่งมาจาก Smart Air ในห้องนอนขนาด 12.3 ตารางเมตรที่กรุงปักกิ่ง
Gus used the same method as my previous tests to calculate effectiveness–the percentage reduction of particulates from the room air overnight.
คุณ Gus ใช้วิธีการทั้งหมดเหมือนกับการทดสอบล่าสุดของผมในการคำนวณถึงประสิทธิภาพการทำงาน วัดถึงค่าประมาณของอนุภาคที่ลดลงไป
และเพื่อให้การทดสอบมีความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด ผมได้ทำการเฉลี่ยประสิทธิภาพในการทำงานเป็นเวลามากกว่า 10 วัน
นี่คือตัวอย่างข้อมูลที่ได้จากหนึ่งวันในทั้งหมด 90 วันในการทดสอบ:
นี่คือภาพของแผ่นกรอง HEPA เมื่อผ่านการทดสอบทั้งหมด 90 วัน:
ผลลัพธ์: หลังจากผ่านไป 90 วัน แผ่นกรองHEPAยังคงสามารถดักจับอนุภาคขนาด0.5ไมครอนได้มากเท่ากับการทดสอบอันที่แล้วของผม:
สรุป: จากงานวิจัยนี้สรุปได้ว่าแผ่นกรองHEPA ของSmart Airมีอายุการใช้งานนานอย่างน้อย90วันโดยที่ประสิทธิภาพการทำงานไม่ลดลงเลย แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถติดตามการทดสอบหลัง90วันได้ที่บทความของทาง Smart Airที่จะเผยแพร่ออกมา
ข้อควรจำ: ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถใช้ได้เพียงแค่กับแผ่นกรองHEPAของSmart Air เท่านั้น ดังนั้นเพราะแผ่นกรองHEPAจากโรงงานอื่นอาจมีความต่างในเรื่องของความหนาและประสิทธิภาพในการทำงาน
ชั่วโมงในการทำงาน: หลังจากผ่านเวลาการทดสอบทั้งหมด90วัน คุณGusได้ใช้แผ่นกรองHEPAเป็นเวลาทั้งหมด 660ชั่วโมงโดยเฉลี่ยวันละ7.33ชั่วโมง และเมื่อเราได้ชั่วโมงเฉลี่ยในการทำงานของแผ่นกรองHEPAแล้ว คุณสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนชั่วโมงที่คุณต้องการใช้ในแต่ละวันเพื่อใช้ในการคำนวณอายุการใช้งานของแผ่นกรองคุณ
และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถอ่านต่อได้ตามข้อมูลด้านล่างนี
ข้อดีของการมีเครื่องฟอกอากาศอยู่ในห้อง: จากที่ผมได้อธิบายไว้ในบทความหลักของผม เพื่อนร่วมห้องของคุณGusมีเครื่องฟอกอากาศรุ่นBlue Airที่เปิดใช้งานเป็นเวลาทั้งหมด56วันแรกของการทดสอบ ดังนั้นผมได้ตั้งสมมติฐานว่าเครื่องฟอกอากาศBlue Airสามารถช่วยลดค่าอนุภาคได้ต่ำจนถึงค่ามาตรฐานซึ่งมันทำให้ยากในการสรุปถึงเปอร์เซนต์ของค่าที่ลดลงมาได้ยาก
เราสามารถทำการทดสอบสมมติฐานนี้หลังจากที่เพื่อนร่วมห้องของเขาได้ย้ายที่อยู่ที่ฮ่องกงและนำBlue Airไปด้วย
ในการทดสอบสมมติฐานของผม ผมได้ทำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการทำงาน (1)ระยะเวลาระหว่างวันแรกถึงวันที่56ที่Blue Airทำงานอยู่ตลอด(2)34วันที่เหลือหลังจากที่เพื่อนร่วมห้องของเขาย้ายออกไป:
ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นถึง66%และอาจมากกว่าการทดสอบต้นฉบับของผมอีกด้วย ดังนั้น ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าตัวเลขก่อนหน้านี้อาจถูกแต่งแต้มให้มันมีค่าที่ต่ำ
มันอาจหมายความได้อีกว่าเราไม่สามารถแปลหรือสรุปค่าอะไรได้ก่อนวันทดสอบที่70:
ตัวเลขเพิ่มขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมห้องของคุณGusได้ย้ายออกไปพร้อมเครื่องฟอกอากาศของเขา แต่ผมคิดว่ามันอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหากบอกว่าเครื่องฟอกอากาศแบบDIYจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
สิ่งที่เราสรุปได้ก็คือ แม้ว่าจะผ่านไป90วันหลังการใช้งานแล้ว แผ่นกรองHEPAยังสามารถทำงานได้ดีเท่ากับที่มันทำได้ในการทดสอบต้นฉบับของผม
คำถาม: เราสามารถทำให้ผลลัพธ์เป็นที่ใช้งานโดยทั่วไปได้หรือไม่ การทดสอบเหล่านี้ดีต่อคนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนเพราะว่าการทดสอบนี้มีมาตรฐานคุณภาพอากาศตามกรุงปักกิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม แผ่นกรองอาจมีอายุการใช้งานที่นานกว่านั้นอีกเมื่ออยู่ภายใต้สภาพอากาศที่สะอาดกว่าที่กรุงปักกิ่ง (ยกตัวอย่างเช่น ที่ฮ่องกง)หรือว่าอาจมีอายุการใช้งานที่สั้นลงเมื่อถูกใช้ภายใต้สภาพอากาศที่สกปรกกว่ากรุงปักกิ่ง (ยกตัวอย่างเช่น ไท่หยวน)
เท่านั้นไม่พอ ค่าที่เปลี่ยนแปลงไปในAQIก็สามารถทำให้การประมาณเหล่านี้มีระยะเวลาที่ยาวขึ้นหรือสั้นลง ยกตัวอย่างเช่น อากาศในฤดูหนาวมีแนวโน้มที่จะเป็นมลพิษมากกว่า
คำถาม: ค่ามันตกลงไปไหมหลังจาก10วัน
คำตอบ: ค่าใน10วันแรกค่อนข้างสูงกว่าวันหลังๆ แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามันไม่เกี่ยวกันในกรณีนี้ ใน10วันแรกคุณGusยังคงเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องวัดฝุ่นอยู่ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งค่ามันอย่างถูกต้องหรืออาจไม่ได้อ่านค่าตามมาตรฐานใน4วันแรก ดังนั้น เราอาจไม่สามารถคำนวนถึงประสิทธิภาพในการทำงานได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าค่าเฉลี่ยใน10วันแรกนั้นมีความน่าเชื่อถือที่น้อยกว่า
คำถาม: เกิดอะไรขึ้นในวันที่30
คำตอบ: ชุดข้อมูลที่3 (วันที่21-30) แสดงให้เห็นว่ามันอยู่ที่ค่าต่ำสุด นั่นอาจเป็นเพราะว่าอากาศด้านนนอกอาจแย่มากในกรุงปักกิ่ง ณ ขณะนั้น และตัวเลขนั้นอาจสะท้อนให้เห็นค่าที่ต่างออกไปในอีก20วัน
คำถาม: ทำไมแผ่นกรองHEPAมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
คำตอบ: หลายคนอาจรู้มาว่าแผ่นกรองHEPAมีประสิทธิภาพแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าในการกำจัดอนุภาค นั่นอาจเป็นเพราะว่า ยิ่งเราใช้งานมากเท่าไหร่ จำนวนอนุภาคที่มาติดยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นอนุภาคก็จะยิ่งผ่านแผ่นกรองนั้นไปได้ยากขึ้นอีก
ปัญหาก็คือมันอาจยิ่งยากขึ้นไปอีกในการที่จะทำให้อากาศสะอาดผ่านไป และในท้ายที่สุดแล้วแผ่นกรองHEPAก็จะเต็มไปด้วยอนุภาคที่ไม่ยอมให้อากาศไหลผ่านไปได้ และนั่นคือตอนที่แผ่นกรองHEPAจะหมดอายุการทำงาน
ข้อมูลดิบ: ไฟล์นั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะแสดงให้เห็นได้ทั้งหมดที่นี่ ดังนั้นผมจึงได้ทำการอัพโหลดเอาไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัวของผม (คลิกที่นี่เพื่อทำการดาวน์โหลด)
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
