เคล็ดลับมือโปร: วิธีการใช้เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด

หากการซื้อเครื่องฟอกอากาศเป็นขั้นตอนแรกในการสูดอากาศบริสุทธิ์ ขั้นตอนต่อไปก็คือความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด! มาดูกันว่า 4 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องฟอกอากาศมีอะไรบ้าง ตั้งแต่ตำแหน่งที่ควรวางเครื่องฟอกอากาศไปจนถึงเมื่อไหร่ที่ควรเปิดเครื่องฟอกอากาศ ทั้งหมดนี้มาจากข้อมูลล้วนๆไม่ได้เดาจากสัญชาตญาณนะ

1. จดบันทึกวันที่ซื้อไว้

แผ่นกรอง HEPA มีอายุการใช้งาน วิธีตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรจะเปลี่ยนแผ่นกรองก็คือการดูวันที่นั่นเอง ตอนแรกที่เราเริ่มทดสอบเครื่องฟอกอากาศเรานึกว่าจะต้องตัดสินใจจากสีที่เปลี่ยนไปของแผ่นกรอง HEPA แต่ข้อมูลก็ได้เผยให้เราเห็นว่าแผ่นกรอง HEPA นั้นยังใช้งานได้ดีอยู่ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นสีดำไปแล้วก็ตาม นั่นทำให้เรารู้ว่าสีที่เปลี่ยนไปของแผ่นกรองนั้นไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดว่าถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรองแล้ว

the HEPA remained effective long after it had turned black

ถึงแม้ว่าวิธีนี้อาจจะไม่ได้แม่นยำขนาดนั้น แต่อย่างน้อยการจดบันทึกวันที่เราเริ่มใช้เครื่องฟอกอากาศก็ทำได้ง่ายๆและมีข้อมูลมายืนยัน การเปลี่ยนแผ่นกรองก็ดูได้จากการนับว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นถูกใช้งานมากี่เดือนแล้ว

check the hepa lifespan in order to get the most out of purifier
note down the date of purchase to get the most out of purifier

ตัวเลขข้างบนนั้นคำนวณจากสมมติฐานที่ว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นถูกเปิดวันละ 8 ชั่วโมง คุณสามารถปรับจำนวนเดือนได้ตามจำนวนชั่วโมงที่คุณใช้เครื่องฟอกอากาศในแต่ละวัน

2. ปิดห้องให้มิดชิด

อีกวิธีหนึ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศก็คือการปิดห้องให้มิดชิด วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้เทปฉนวนอุดช่องว่างรอบหน้าต่างและประตู

keep the room well-sealed to get the most out of purifier

ข้อเสียของการปิดห้องให้มิดชิด

ยิ่งบ้านถูกปิดไว้อย่างมิดชิดเท่าไหร่ นั่นก็หมายความว่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เราหายใจออกมาก็จะถูกสะสมไว้มากขึ้นเช่นกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เสียทีเดียวหากมีคนอยู่ในห้องเพียงไม่กี่คน แต่ถ้าหากว่ามีคนอยู่ในห้องหลายๆคน ระดับของ CO2 ก็สามารถเพิ่มไปถึงขั้นที่จะทำให้คนในห้องรู้สึกเวียนหัวได้

มลพิษอื่นๆจากในบ้านก็จะถูกสะสมไว้มากขึ้นอีกด้วย หนึ่งตัวอย่างก็คือฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งมาจากเฟอร์นิเจอร์และพื้นใหม่ การทดสอบของ Smart Air ได้ทำให้เห็นว่าแผ่นกรองคาร์บอนสามารถลดระดับฟอร์มัลดีไฮด์และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) อื่นๆอีกด้วย

หากคุณต้องการอากาศที่สดชื่น การทดสอบของเราได้เผยให้เห็นว่ามันยังเป็นไปได้ที่เครื่องฟอกอากาศจะทำงานในขณะที่เปิดหน้าต่างไว้ แน่นอนว่าถ้าหน้าต่างเปิดอยู่หรือห้องนั้นปิดไม่มิดชิดคุณก็จะต้องใช้เครื่องฟอกอากาศที่แรงกว่าหรือเปลี่ยนแผ่นกรองHEPAให้บ่อยขึ้น

particles in room: windows opened vs. window closed

3. วิธีการจัดตำแหน่งเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุด

โดยทั่วไปเครื่องฟอกอากาศมักจะถูกวางไว้ติดผนังห้องเพราะว่าทำให้ไม่เกะกะรกตา แต่ที่จริงแล้วนั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ควรจะวางที่สุด เราทดสอบมาแล้วและพบว่าตำแหน่งในการวางเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดคืออย่างน้อย 10 เซ็นติเมตรจากผนังห้อง

placing your purifier against the wall does not get the most out of it

4. ไม่จำเป็นต้องเปิดมันทั้งวัน

เครื่องฟอกอากาศบางเจ้าแนะนำให้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แม้คุณจะไม่อยู่บ้านก็ตาม

when should I run my air purifier

Smart Air ทดสอบในบ้านจริงๆแล้วว่าเครื่องฟอกอากาศอย่างเช่น DIY Cannon สามารถลดอนุภาคฝุ่นได้ถึง 80% ในห้องขนาด 13.5 ตารางเมตร ภายในเวลา 20 นาที ซึ่งก็หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องเปลืองพลังงานหรือเปลืองอายุการใช้งานของ HEPA ตอนที่คุณไม่อยู่บ้าน

ถ้าอย่างนั้นก็ปิดเครื่องฟอกอากาศเวลากลางคืนได้ใช่ไหม

จริงๆแล้วเราจำเป็นต้องเปิดเครื่องฟอกอากาศแม้ในเวลากลางคืนก็ตาม สัญชาตญาณของเราอาจจะบอกว่าหากฟอกอากาศจนสะอาดแล้วก็ปิดเครื่องได้ ปิดหน้าต่างซะ เท่านี้อากาศก็จะคงสะอาดอยู่อย่างนั้นทั้งคืน เราจึงได้ทำการทดลองโดยการปิดเครื่องฟอกอากาศในอพาร์ทเม้นท์ในกรุงปักกิ่งและทดสอบดูว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการที่อากาศจะกลับมาเป็นมลพิษอีกครั้ง

how long does it take for the room to get dirty again

ข้อมูลของเราเผยให้เห็นว่าระดับอนุภาคฝุ่นนั้นได้กลับมาถึง 50% ของระดับมลพิษเมื่อผ่านไปได้เพียง 15 นาทีและกลับไปเป็น 100% หลังจาก 80 นาที ดังนั้นแล้วเราจำเป็นต้องเปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ตลอดทั้งคืน (หมายเหตุ: นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่โหมดอัตโนมัติอย่างเช่นของ Xiaomi บ่อยครั้งไม่สามารถฟอกอากาศให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้)

สรุป

เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เครื่องฟอกอากาศควรถูกวางไว้ห่างจากผนังห้องอย่างน้อย 10 เซ็นติเมตร ถึงอย่างนั้นแล้วการวางให้ห่างจากผนังห้องสัก 4 เซนติเมตร (ประมาณความยาวของปลอกปากกา)ก็ให้ประสิทธิภาพสูงใกล้เคียงกัน

Smart Air

เรียนรู้เพิ่มเติม: วิธีที่ดีที่สุดในการจัดวางตำแหน่งเครื่องฟอกอากาศ »

เกี่ยวกับ Smart Air

Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์

อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ

บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา

Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ

ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Subscribe
Notify of
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Smart Air low cost purifiers

Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคม ที่จัดสรรอากาศสะอาดให้คุณอย่างเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุด และให้ความรู้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีและป้องกันผลกระทบจากมลพิษอากาศ และเรายังได้รับการรับรองว่าเป็นธุรกิจ B-Corp ในเรื่องของการต่อสู้กับมลพิษทางอากาศอีกด้วย

Certified B-Corp air purifier company