ยิ่งสูงยิ่งมีมลพิษน้อยหรือไม่ การอยู่บนที่สูงส่งผลต่อมลพิษอากาศอย่างไร

การอาศัยอยู่บนอาคารสูงทำให้เราแยกตัวออกจากโลกอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น เสียงจากรถ ถนน คนขายของ แต่นั่นจะหมายความว่า PM2.5 ก็อยู่ห่างจากเราไปด้วยหรือไม่

การทดสอบมลพิษในอาคารสูง

คุณ Tristan จากทีม Smart Air ทดสอบโดยนำเครื่องวัดฝุ่นแบบเลเซอร์ไปวัดจากชั้น 1 ถึงชั้น 22 ของอาคารอพาร์ตเมนต์ในเฉาหยางเหมิน มณฑลปักกิ่ง โดยคุณ Tristan ทดสอบเป็นระยะ 2 วัน ในฤดูร้อน ซึ่งระดับขีดจำกัดขององค์การอนามัยโลกภายใน 24 ชั่วโมง อยู่ที่ค่า 25 ไมโครกรัม คุณ Tristan วัด PM2.5 ได้ 207 ไมโครกรัมในวันที่ 1 และ 84 ไมโครกรัมในวันที่ 2 ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทั้ง 2 วันค่อนข้างมีมลพิษหนาเลยทีเดียว

คุณ Tristan ใช้ Air Visual Node และตัวนับอนุภาคเลเซอร์ Dylos DC1700 ในการวัดที่หน้าต่างโถงทางเดินทุกบานตั้งแต่ชั้น 1 ถึง 22 และชั้นที่มีเลขคู่ทั้งหมดในระหว่างนั้น การทดสอบพบว่า Dylos และ Node มีการอ่านค่า PM2.5 ที่สัมพันธ์กับค่าของสถานทูตสหรัฐฯ สูงเลยทีเดียว (r > .90)

ผลลัพธ์: อนุภาคขนาดเล็ก

อันดับแรก เราดูที่อนุภาคขนาดเล็ก หรือ อนุภาค 0.5 ไมครอนขึ้นไป ซึ่งเราเปรียบเทียบชั้นที่เห็นได้ชัดเจนอย่างชั้น 22 ว่ามีระดับอนุภาคต่ำกว่าชั้น 1 หรือไม่

ในวันที่ 1 เครื่องวัด Dylos พบว่าจริงๆ แล้วชั้นสูงกว่ามีอนุภาคขนาดเล็กที่มากกว่าเล็กน้อย

ในวันที่ 2 เครื่องวัด Node พบว่าค่า PM2.5 ของทั้งสองเท่ากัน

ผลลัพธ์มีความคล้ายคลึงกันเมื่อเราเฉลี่ยชั้น 1-10 กับชั้น 12-22 เห็นได้ว่าผลลัพธ์ในการทดสอบแรกบนชั้นสูงมีค่าสูงกว่าเล็กน้อย และการทดสอบที่สองกลับมีค่าต่ำกว่าเล็กน้อยเช่นกัน

สรุป: การอยู่บนชั้นสูงกว่าไม่ได้แปลว่าปลอดภัยกว่าจากอนุภาคขนาดเล็ก

ผลลัพธ์: อนุภาคขนาดใหญ่

สำหรับอนุภาคขนาดเล็ก เห้นได้ว่าไม่มีความแตกต่างมากนัก แล้วอนุภาคที่ขนาดใหญ่กว่า 2.5 ไมครอนล่ะ ปริมาณฝุ่นประเภทนี้อาจจะต่ำกว่าชั้นบนก็เป็นได้ เพราะจะมีตกตะกอนที่เร็วกว่าอนุภาคขนาดเล็ก

แต่ก็เช่นเคย การทดสอบด้วย Dylos พบว่าชั้น 22 มีอนุภาคน้อยกว่าในวันที่ 1:

และในวันที่ 2 ก็มีค่าอนุภาคที่สูงกว่าเมื่อวัดด้วย Node:

สูงแค่ไหนถึงปลอดภัย

การอยู่บนชั้น 22 ไม่ได้ช่วยเรื่องอนุภาคขนาดเล็กอย่าง PM2.5 แล้วต้องอยู่สูงแค่ไหนถึงจะหนี PM2.5 ได้ เนื่องจากไม่มีเฮลิคอปเตอร์ให้เราใช้ทำการทดสอบ นี่จึงเป็นการคาดคะเนของเรา:

อากาศจะผสมกันในระดับความสูงที่แตกต่างกันในฤดูร้อนและฤดูหนาว ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ในตอนกลางวันความสูงผสมเฉลี่ยต่ำสุดคือ 1,000 เมตร ซึ่งสูงกว่าอาคารสูงมาก

ที่ชั้นละประมาณ 3.1 เมตร คนบนชั้น 20 จะอยู่ที่ความสูงประมาณ 62 เมตร ก็ไม่ได้ใกล้กับความสูง 1,000 เมตร ซักนิดเลย

อยู่สูงกว่าอาจหายใจคล่องกว่าตอนกลางคืน

แต่ตอนกลางคืนอากาศจะเย็นลง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50-100 เมตร หรือเรียกได้ว่าระดับความสูงของอาคาร 16-32 ชั้น หมายความว่าอาจหายใจคล่องกว่าในเวลากลางคืน แต่เพื่อความแม่นยำเราจะพิจารณาการทดสอบอีกครั้งในอนาคต!

เกี่ยวกับ Smart Air 

Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับมาตรฐาน B Corp ที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์

อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ

บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา

Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ

ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม