ในตอนที่หน้ากากอนามัยขาดแคลน หลายคนจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยอันเดิมซ้ำๆ ทำให้แนวคิดการนำหน้ากากอนามัยมาใช้ซ้ำที่ดูเป็นเรื่องบ้ากลายเป็นต้องตั้งคำถามว่าทำได้จริงหรือ
การไมโครเวฟหน้ากากอนามัยยับยั้งไวรัสโคโรน่าได้หรือเปล่า
เหตุผลนึงที่ทำให้คำถามนี้สำคัญ: Smart Air ได้ทดสอบแล้วว่าการซักหน้ากากN95 ด้วยน้ำและสบู่นั้นทำให้ประสิทธิภาพในการจับอนุภาคนั้นลดลง 21% การทดสอบอื่นๆได้ค้นพบว่าเพียงแค่จุ่มหน้ากากลงไปในแอลกอฮอล์ (ไม่ได้ถูไถ) ก็ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
เพื่อที่จะหาคำตอบ Smart Air บ้าพอที่จะทดลองไมโคเวฟหน้ากากอนามัย! เริ่มด้วยการแบ่งการทดสอบนี้ออกเป็นสองคำถาม
มาดูกัน: การไมโครเวฟหน้ากากอนามัยจะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้หรือไม่
การไมโครเวฟหน้ากากอนามัยจะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้หรือไม่
1. ไมโครเวฟยับยั้งเชื้อไวรัสได้หรือไม่
มาดูกันก่อนว่าไมโครเวฟในครัวเรือนทั่วๆไปนั้นสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ไหม (นักวิทยาศาสตร์บางท่านอาจจะเถียงว่าเชื้อไวรัสนั้นไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ต้องใช้คำว่า“ยับยั้ง”เชื้อไวรัสถึงจะถูก) นักวิจัยในเยอรมันได้ทำการทดสอบเพื่อดูว่าไมโครเวฟนั้นสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสตับอักเสบซีและ HIV ในเข็มฉีดยาและก้นกรองบุหรี่ได้หรือไม่
แล้วทำไมต้องเป็นบุหรี่กับเข็มฉีดยาด้วยล่ะ นี่ก็เพราะว่าคนติดยาส่วนใหญ่จะมีการใช้บุหรี่และเข็มฉีดยาซึ่งพวกเขาสามารถติดเชื้อได้ผ่านสิ่งเหล่านี้
นักวิจัยได้ทำการปนเปื้อนก้นกรองบุหรี่และส่วนที่เป็นพลาสติกของเข็มฉีดยาด้วยเชื้อไวรัสตับอักเสบซีหรือ HIV จากนั้นพวกเขาก็เอามันใส่ไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาทีด้วยระดับกำลังที่ต่างกัน
ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เห็นว่าการไมโครเวฟที่กำลังไฟฟ้า 360 วัตต์เป็นเวลา 3 นาทีก็เพียงพอแล้วที่จะยับยั้งเชื้อไวรัสเป็นจำนวนมาก
เพื่อความชัวร์ นักวิจัยแนะนำให้ไมโครเวฟที่กำลังไฟฟ้า 600 วัตต์เป็นเวลา 2 นาทีขึ้นไป โชคดีที่ว่าไมโครเวฟตามบ้านส่วนใหญ่มีกำลังไฟฟ้าถึง 600 วัตต์เมื่อตั้งไฟแรง
แล้วไวรัสโคโรน่าล่ะ
นักวิจัยจากเยอรมันได้ทดสอบการไมโครเวฟนี้ดูกับเชื้อไวรัสตับอักเสบซีและ HIV แต่ไม่ได้ทดสอบกับไวรัสโคโรน่า จริงอยู่ว่าไม่มีการทดสอบไมโครเวฟเชื้อโควิด-19 แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบแล้วกับไวรัสก่อโรคระบบทางเดินหายใจซึ่งเป็นไวรัส RNA คล้ายกับไวรัสโคโรน่าที่คนเราสามารถติดเชื้อได้
นักวิทยาศาสตร์ได้นำเชื้อไวรัสไปไว้บนจานเพาะเชื้อพลาสติกและเอาใส่ไมโครเวฟตั้งไฟแรงสูงเป็นเวลา 20 ถึง 200 วินาที
ข้อมูลเผยให้เห็นว่าการไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาทีนั้นเพียงพอแล้วที่จะยับยั้งเชื้อไวรัสโปลิโอและเชื้อไวรัสก่อโรคระบบทางเดินหายใจ
‘600W’ คืออะไร แล้วไมโครเวฟของฉันมีคุณสมบัติตามนี้หรือไม่
‘600W’ ที่นักวิทยาศาสตร์เค้าใช้จัดการกับไวรัสที่ว่านี่ก็คือกำลังของไมโครเวฟ คิดง่ายๆก็คือการตั้งค่าไฟอ่อน ไฟปานกลาง และไฟแรงสูงบนไมโครเวฟของคุณนั่นเอง ไมโครเวฟในครัวเรือนทั่วไปเวลาที่คุณตั้งค่าไฟแรงจะส่งกำลังไฟฟ้าออกมา 700-1200W ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงที่ไมโครเวฟของคุณนั้นจะมีคุณสมบัติตามสเปค เพื่อความมั่นใจ คุณสามารถตรวจดูสติกเกอร์ที่แปะอยู่หลังไมโครเวฟของคุณได้
2. แต่การไมโครเวฟจะมีผลเสียต่อประสิทธิภาพของหน้ากากหรือเปล่า
โอเค ผลการทดสอบได้ทำให้เห็นแล้วไมโครเวฟสามารถฆ่าเชื้อไวรัสบนวัตถุต่างๆได้ แต่เราต้องการที่จะรู้ว่ามันจะทำลายประสิทธิภาพของหน้ากากหรือไม่ เพื่อที่จะทดสอบ คุณ Paddy หัวหน้าวิศกรของ Smart Air จึงได้นำหน้ากาก N95 ของ 3M มาทดสอบกับไมโครเวฟในห้องครัวของ Smart Air
ปัญหาอย่างหน่ึงของการไมโครเวฟหน้ากาก N95 ก็คือ: คุณ Paddy ต้องทำการถอดแถบที่จมูกและส่วนที่เป็นเหล็กออกซึ่งมันไม่สะดวกเอาซะเลย เมื่อถอดส่วนที่เป็นเหล็กออกจากหน้ากากแล้ว หน้ากาก N95 นี้ก็ไม่สามารถใช้งานได้อีก ถ้าหน้ากากของคุณมีส่วนผสมที่เป็นเหล็กคุณก็อาจจะต้องทำลายหน้ากากของคุณเสียก่อนที่จะเอาเข้าไมโครเวฟได้ อย่างไรก็ตาม หน้ากากบางชนิดก็ไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นเหล็ก โดยเฉพาะพวกหน้ากาก DIY ที่หลายคนใช้กันตอนนี้
เพื่อทำการทดสอบผลกระทบจากไมโครเวฟ คุณ Paddy ได้ทำการไมโครเวฟหน้ากาก N95 ของ 3M ด้วยไฟแรงสูงเป็นเวลา 3 นาที
หลังจากผ่านไป 2 นาที ไมโครเวฟก็เริ่มมีกลิ่นออกมา แต่ด้วยความที่คุณ Paddy ไม่อยากยอมแพ้ จึงเอาให้สุด!
หลังจากไมโครเวฟได้ 3 นาทีและรอให้หน้ากากเย็นลง คุณ Paddy ได้นำเครื่องวัดอนุภาคในอากาศ (Met One GT-521) มาทดสอบว่าหน้ากากนี้ยังดักจับอนุภาค 0.3 ไมครอนได้ดีอยู่หรือไม่ ขนาดของอนุภาคนั้นสำคัญสำหรับการทดสอบเพราะโดยทั่วไปมันเป็นขนาดที่ดักจับยากที่สุด
อ่านต่อ: กระดาษทิชชู่มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการเอาไปทำหน้ากาก DIY
เป็นเรื่องน่าตกใจที่ไมโครเวฟไม่ได้ทำลายประสิทธิภาพการกรองของหน้ากาก
การไมโครเวฟนั้นเพิ่มการดักจับของอนุภาคฝุ่นขึ้นมาอีกนิดนึงด้วยซ้ำ
เหตุผลนึงที่ไม่ควรอบหน้ากากอนามัย
การไมโครเวฟหน้ากากนั้นอันตราย เหตุผลนึงก็เพราะว่าไมโครเวฟนั้นสามารถทำให้วัสดุละลายได้ ยิ่งไปกว่านั้น The Guardian ได้รายงานว่ามีชายท่านหนึ่งในสหราชอาณาจักรนำผ้าเช็ดจานไปใส่ในโครเวฟเพื่อที่จะฆ่าเชื้อโรคแต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้จุดไฟในห้องครัวตนเอง
สรุป
การไมโครเวฟที่กำลังไฟฟ้า 600 วัตต์นั้นสามารถยับยั้งเชื้อโรคได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่แนะนำเนื่องจากต้องถอดส่วนที่เป็นเหล็กออกก่อนเพราะอาจละลายหรือเกิดไฟไหม้ได้
มีอีกหลายวิธีที่สามารถฆ่าเชื้อโรคบนหน้ากากได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากไฟไหม้
อ่านต่อ: วิธีฆ่าเชื้อโรคบนหน้ากากอนามัยโดยไม่ทำลายประสิทธิภาพของหน้ากาก

ป.ล. การไมโครเวฟยับยั้งเชื้อไวรัสได้อย่างไร
ในรายงานนั้น นักวิทยาศาสตร์จากเยอรมันได้อธิบายว่าอุณหภูมิที่ 56–60° C นั้นเพียงพอที่จะยับยั้งเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
ติดตามต่อไป: ต้องใช้ความร้อนแค่ไหนในการยังยั้งเชื้อ Covid-19?
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม