หลายคนเริ่มเกิดความกังวลว่าหน้ากาก N95 จะทำให้เราขาดออกซิเจนจากการใส่หน้ากากเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดกัน นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองโดยให้คนใส่หน้ากาก N95 และตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด เพราะฉะนั้นเราจะมีคำตอบให้คุณแน่นอน และมันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คนเขาสันนิษฐานกัน
คำถามข้างล่างนี้ไม่ได้ถามว่าการใส่หน้ากากจะทำให้ออกซิเจนลดลงหรือไม่ แต่เขาถามว่า‘ออกซิเจนจะลดลงเท่าไหร่’ ซึ่งเขาได้สันนิษฐานแล้วว่ามันมีผลกระทบแน่
อีกคำถามในเว็บ Quora มีคนถามว่าการใส่หน้ากากจะมีผลให้สมองเสียหายถาวรหรือไม่
หลังๆมานี้สื่อก็มีการพูดถึงข้อสงสัยนี้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวในสหรัฐอเมริกาพูดว่าหน้ากากนั้นทำให้ออกซิเจนของเราลดลง
การทดสอบออกซิเจน
โชคดีว่าเราไม่จำเป็นต้องทำตามสัญชาตญาณเอง เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองในการสุ่มให้กลุ่มหนึ่งใส่หน้ากาก N95 ที่ค่อนข้างคับนี้และอีกกลุ่มไม่ต้องใส่
ระหว่างที่ผู้เข้าร่วมการทดลองใส่หน้ากากอยู่นั้น นักวิจัยก็ได้วัดค่าระดับออกซิเจนของพวกเขาผ่านทางผิวหนัง
ผู้เข้าร่วมไม่ได้แค่ใส่หน้ากากแล้วนั่งเฉยๆ นักวิจัยได้ให้พวกเขาออกกำลังกายในขณะที่ใส่หน้ากากอยู่ด้วย
พวกเขาไม่ได้วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย เป็นการออกกำลังกายระดับปานกลางโดยการเดินด้วยความเร็ว 2.5 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นเวลา 1 ชั่วโมงบนลู่วิ่ง ซึ่งก็เท่าๆกับ 4 กิโลเมตรในหนึ่งชั่วโมง
เนื่องจากเราก็ไม่เคยวัดระดับออกซิเจนของใครจึงไม่ทราบว่าตัวเลขปกติควรจะประมาณไหน อ้างอิงจาก Mayo Clinic ระดับออกซิเจนปกติอยู่ที่ 95-100% ในการวิจัยนี้ ระหว่างที่ผู้เข้าร่วมนั่งเฉยๆโดยไม่ได้ใส่หน้ากากอยู่นั้น ระดับออกซิเจนของพวกเขาก็อยู่กลางๆของตัวเลขที่ว่านี้:
หากเราสันนิษฐานว่าหน้ากากจะทำให้เราขาดออกซิเจน มันก็คงจะลดระดับออกซิเจนตลอดการทดลองครั้งนี้:
หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะเริ่มด้วยตัวเลขเดียวกันและหลังจากนั้นก็เริ่มลดลงอย่างช้าๆจนทำให้เราหายใจไม่ออกเพราะสูดหายใจอากาศเดิมๆเข้าไป และเกิดภาวะขาดออกซิเจนในที่สุดที่ 90%
มาดูกันว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
ก็ไม่เกิดอะไรมากขึ้นหรอก ระดับออกซิเจนก็ใกล้เคียงกับตอนเริ่มต้น และมากขึ้นกว่าเดิมนิดนึงในตอนท้ายด้วยซ้ำ
แต่เดี๋ยวก่อน!
คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าหน้ากากนั้นมีวาล์วช่วยหายใจอยู่
จริงอยู่ที่วาล์วนี้ทำให้การหายใจสะดวกขึ้นมาก แต่ถ้าหากเรากังวลเรื่องการแพร่เชื้อโรคเราก็ไม่ควรจะใส่หน้ากากที่มีวาล์ว ถ้าไม่มีวาล์วที่ว่านี้แล้วละก็ระดับออกซิเจนคงจะแย่กว่านี้มากใช่ไหมล่ะ
ผู้อ่านคงจะเกิดความสงสัยสินะ โชคดีว่านักวิจัยเขาก็ได้ทำการทดลองแบบเดียวกันกับหน้ากากที่ไม่มีวาล์วเช่นกัน มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับระดับออกซิเจน:
แม้ว่าจะไม่มีวาล์วก็ไม่ได้เกิดความแตกต่างขึ้นกับระดับออกซิเจน ระดับออกซิเจนไม่ได้ลดลงด้วยซ้ำ
ถ้าอย่างนั้นจะมีหรือไม่มีวาล์วก็ไม่เกี่ยว หรือว่าระยะเวลาจะเป็นตัวแปรกันนะ 1 ชั่วโมงอาจจะสั้นไปสำหรับการทดลองหรือเปล่า?
นักวิจัยก็ได้คิดในส่วนนั้นมาแล้วเช่นกัน! ในอีกการวิจัยนึงได้มีการทดสอบกับเหล่าพยาบาลที่ใส่หน้ากาก N95 ระหว่างการทำงานกะ 12 ชั่วโมง แม้จะทดลองเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ออกซิเจนก็ไม่ได้ลดลงเลย
แล้วกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงล่ะ
จริงอยู่ว่าอาจจะไม่มีผลกระทบกับผู้ใหญ่ที่ร่างกายแข็งแรง แต่ว่ากลุ่มคนที่มีความเสี่ยงล่ะ?
แล้วคนท้องล่ะ?
คนท้องนั้นหายใจเผื่อคนสองคน การตั้งครรภ์จึงทำในการหายใจลำบากขึ้น ยากขึ้นสองต่อเลยทีเดียว
คนกลุ่มนี้อาจจะดูเหมือนเป็นกลุ่มเสี่ยงใช่ไหมล่ะ แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกนักวิจัยเค้าก็ได้ทำการทดลองกับผู้หญิงตั้งครรภ์แล้วเช่นกัน
พวกเขาได้ขอให้ผู้หญิง 22 คนที่กำลังตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 3 ปั่นจักรยานเป็นเวลา 20 นาที โดยทดลองให้ใส่และไม่ใส่หน้ากาก N95 แล้วเกิดอะไรขึ้นกับระดับออกซิเจนของพวกเธอกันล่ะ? ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
สรุป: การทดลองแบบสุ่มนี้ไม่พบหลักฐานว่าหน้ากาก N95 ทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายลดลง แม้ในขณะที่ออกกำลังกายเบาๆอยู่ก็ตาม
หมายความว่าการใส่หน้ากากไม่มีผลกระทบอะไรกับร่างกายเลยหรือ
นั่นอาจจะเป็นการด่วนสรุปไป จริงหรือที่หน้ากากมีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์เป็นศูนย์
ที่จริงแล้วหน้ากากนั้นมีผลกระทบอยู่ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คนสงสัยกัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับออกซิเจนแต่มันเกี่ยวกับคาร์บอนไดออกไซด์ต่างหาก
หน้ากากเพิ่มระดับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
มนุษย์และสุนัขหายใจเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และไอตัวคาร์บอนไดออกไซด์นี่แหละที่ถูกเก็บสะสมอยู่ในหน้ากาก
ในการวิจัยเดียวกันนี้ นักวิจัยได้วัดค่าของจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายของผู้เข้าร่วมด้วย ซึ่งผลออกมาว่ามันเพิ่มขึ้นเวลาที่ผู้เข้าร่วมใส่หน้ากาก N95 อยู่
ทว่าคาร์บอนไดออกไซด์ก็เพิ่มขึ้นเพียงนิดเดียวเท่านั้นประมาณ 3% แม้ว่าจะทดสอบกับหน้ากากที่ไม่มีวาล์ว และก็ไม่ถึงขีดจำกัด 45 มิลลิเมตรปรอทของคาร์บอนไดออกไซด์ (หากมากกว่านั้นจะเกิดภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูง) ยิ่งไปกว่านั้นระดับคาร์บอนไดออกไซด์ของผู้เข้าร่วมก็คงที่เมื่อผ่านไป 15 นาที หรือก็พูดได้ว่าคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะมีการสะสมในร่างกายเพิ่มขึ้นในหนึ่งชั่วโมงนั้น
สรุป
การใส่หน้ากาก N95 ระหว่างที่ออกกำลังกายแบบไม่หนักมากไม่ได้ทำให้เราขาดออกซิเจน แต่มันเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดเล็กน้อย
ป.ล. มีการสันนิษฐานอย่างเดียวกันกับอากาศในห้อง
เราเห็นว่ามีการถามคำถามเกี่ยวกับระดับออกซิเจนในห้องปิดที่มีเครื่องฟอกอากาศอยู่ ดังนั้นเราจึงได้ทำการทดสอบนี้ในออฟฟิศเล็กๆของ Smart Air
ข้อมูลที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าสัญชาตญาณของเราก็ผิดอีกแล้ว เพราะออกซิเจนแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยทั้งวัน แต่คาร์บอนไดออกไซด์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ป.ล. ข้อแม้: แล้วกลุ่มเสี่ยงอื่นๆล่ะ
แน่นอนว่าผู้หญิงท้องอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ก็มีกลุ่มเสี่ยงอื่นๆอีกมากมายที่อาจมีปัญหาในการหายใจตอนที่ใส่หน้ากาก N95 การที่มีการวิจัยค้นพบว่าหน้ากาก N95 ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่ได้หมายความว่ามันจะปลอดภัยกับทุกคน อย่างเช่น คนที่เป็นโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังก็น่าเป็นห่วง
ป.ล. ข้อแม้อีกสักข้อ: เครื่องบ่งชี้อื่นๆเกี่ยวกับสรีรวิทยา
ออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ทางสรีรวิทยาอย่างเดียวเท่านั้น นักวิจัยได้ทดสอบกับเครื่องบ่งชี้อื่นๆ อย่างเช่น ความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งก็ไม่ได้มีความแตกต่างมากนักในกลุ่มที่ใส่และไม่ใส่หน้ากาก แต่ร่างกายมนุษย์นั้นเป็นเรื่องซับซ้อน เพราะฉะนั้นเราก็คงไม่กล้าที่จะพูดว่ามันไม่มีผลกระทบเลย
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับมาตรฐาน B Corp ที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม