นักวิทยาศาสตร์ได้สุ่มตัวอย่างให้คนสวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป และติดตามว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อหวัดและไข้หวัดใหญ่ที่คล้ายกับโควิด19 กี่คน ข้อมูลนี้สามารถบอกเราได้ว่าหน้ากาก N95 หรือหน้ากากอนามัย มีประสิทธิภาพมากกว่ากันในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ และผลลัพธ์ทำให้เราประหลาดใจ
ไลฟ์สด ไวรัสโคโรน่า & หน้ากาก
หากคุณสงสัยว่าหน้ากากป้องกันไวรัสโคโรน่าได้อย่างไร คลิกเพื่อดูสรุปไลฟ์สดของเราซึ่งครอบคลุมข้อมูลทั้งหมด ได้ที่นี่!
ความเข้าใจของหลายๆคนเกี่ยวกับหน้ากาก N95 และไวรัสโคโรน่า
ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นที่น่าตกใจ เพราะเราผู้ใช้หลายคน มีความจำเป็นต้องใช้หน้ากาก N95 เพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่า และเชื่อว่าหน้ากากอนามัยไม่สามารถป้องกันโคโรน่าได้
ในทำนองเดียวกัน แพทย์ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNN กล่าวว่าหน้ากากอนามัยใช้ไม่ได้ผล
ให้พูดตามตรง เราก็เข้าใจอย่างนั้นด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยเพราะหน้ากาก N95 หนากว่าหน้ากากอนามัยมาก แถมยังมีเปอร์เซ็นต์ในการจับอนุภาคสูงกว่า นี่จึงเป็นหน้ากากที่คุณ Thomas ผู้เขียนบทความนี้ ใช้ตลอดเมื่ออยู่ในเดลีและปักกิ่ง
การทดสอบ: หน้ากากผ่าตัด vs. หน้ากาก N95
นักวิทยาศาสตร์ทำการทดสอบโดยสุ่มให้พยาบาลกว่า 2,000 คน สวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากผ่าตัด จากนั้นก็ติดตามผลว่ามีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่กี่คน
เราจึงตั้งโพลบน Twitter เพื่อดูว่าคนอื่นๆจะคิดอย่างไร และพบว่าคนส่วนใหญ่ (68%) เดาว่า N95 ป้องกันได้ดีกว่า เราจึงทราบว่าเราไม่ได้คิดไปเอง
แต่เมื่อได้ทราบผลลัพธ์ กลับกลายเป็นว่าอัตราการติดเชื้อเท่าเดิม!
ความแตกต่างไม่ได้สำคัญนัก แม้ว่าความจริงแล้วผู้ที่ใช้หน้ากากผ่าตัดจะมีอัตราการติดเชื้อต่ำกว่าเล็กน้อย
หรือการวิจัยนี้อาจเป็นความบังเอิญ
ข้อมูลที่ได้อาจเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะมีการวิจัยรอบเดียว แต่ไม่ได้เป็นงานวิจัยเดียวที่มีอยู่
นักวิจัยในแคนาดาสุ่มให้พยาบาล 446 คนสวมหน้ากาก N95 หรือ หน้ากากผ่าตัด ในช่วงฤดูหนาว2-3 เดือน และฤดูไข้หวัดใหญ่ (กันยายนถึงธันวาคม) จากนั้นก็ติดตามว่ามีกี่คนที่เป็นไข้หวัดใหญ่หรือเป็นหวัดกี่คน
ผลออกมาเหมือนเดิม ความแตกต่างไม่สำคัญ! หน้ากากทั้งสองแบบป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสได้ดี พยาบาลประมาณ 9% ที่สวมหน้ากากอนามัยมีอาการป่วย เทียบกับหน้ากาก N95 ที่ป่วย 10%
ข้อสงสัยที่มีเหตุผล
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ อาจมีผู้ที่เข้าใจสองสามคนกำลังคิดว่า “อ๋ออออ!”
เดาได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น! การวิจัยไม่ได้มีการควบคุมอย่างเคร่งครัด เราจึงไม่ทราบว่าหน้ากากป้องกันได้จริงหรือไม่ และหากหน้ากากทั้งสองใช้ไม่ได้จริง จะไม่มีความแตกต่างอย่างแน่นอน
นั่นนับเป็นคำถามที่ดี และการทดสอบเป็นไปได้ยากเพราะเราจะทำอย่างไร สั่งให้พยาบาลไม่ใส่หน้ากากเลยก็จะเกินไปหน่อย
เราต้องการวิจัยในสถานการณ์ที่คนต้องเผชิญกับการติดเชื้อแต่ปกติไม่สวมหน้ากาก และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้พบกับสถานที่ดังกล่าว:
บ้านนั่นเอง!
การทดสอบ: ไวรัสและการไม่สวมใส่หน้ากาก
นักวิจัยในออสเตรเลียวิจัยจากผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกๆที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่
เนื่องจากผู้คนมักไม่สวมหน้ากากที่บ้าน (ถึงแม้จะมีคนป่วย) นักวิจัยจึงสามารถสุ่มเลือกคนให้สวมหน้ากากในสถานการณ์ดังกล่าวได้ โดยสุ่มให้พ่อแม่ไม่สวมหน้ากาก สวมหน้ากากผ่าตัด หรือสวมหน้ากาก N95 อย่างที่เราสวมใส่ในรูปด้านล่าง
และติดตามผลว่าผู้ปกครองกี่คนได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่บ้าง
พบว่าผู้ปกครองประมาณ 16% ที่ไม่สวมหน้ากากที่อาการป่วย เมื่อเทียบกับผู้ปกครองที่สวมหน้ากากผ่าตัดและหน้ากาก N95 (เรียกว่าหน้ากาก “P2” ในออสเตรเลีย) ป่วยเพียง 8% จึงสรุปคร่าวๆได้ว่าหน้ากากป้องกันได้จริงๆ แต่อย่างที่ทดสอบในตอนแรก หน้ากากผ่าตัดมีประสิทธิภาพพอๆ กับหน้ากาก N95 และตัวเลขของผลลัพธ์ก็ค่อนข้างเห็นได้ชัด เพราะเป็นครึ่งหนึ่งของอัตราการติดเชื้อเลยทีเดียว
อาจไม่น่าแปลกใจเลย ที่หน้ากากใช้ได้ผลเฉพาะกับคนที่สวมจริงๆเท่านั้น ซึ่งแปลว่าไม่ได้มีผลอะไรกับคนที่ลืมสวมหน้ากากหรือเลือกที่จะไม่สวม
หรือวิจัยชิ้นนี้ก็มีผลออกมาบังเอิญเหมือนกันล่ะ นักวิจัยกลุ่มอื่นๆได้ทำการทดสอบแบบเดียวกันในบ้านที่ประเทศเยอรมัน และพบกับผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน
หน้ากากผ่าตัดจะป้องกันไวรัสได้ดีเท่าหน้ากาก N95 ได้ยังไง
เอาล่ะ คงมีผู้อ่านที่สงสัยอยู่บ้างว่าหน้ากากผ่าตัดจะจับอนุภาคขนาดเล็กได้ยังไง และเราได้พบความเห็นจากแพทย์ท่านนึงใน Quora กล่าวว่า “หน้ากากส่วนใหญ่” ไม่สามารถจับอนุภาคขนาดเท่าไวรัสได้
แต่เมื่อเราลองมองผ่านความคาดเดาที่มีไว้ตอนต้น แล้วมองที่ข้อมูลจากการทดสอบ ความเป็นจริงก็น่าสนใจเลยทีเดียว ข้อมูลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าหน้ากากผ่าตัดมีประสิทธิภาพจนน่าทึง โดยมีประสิทธิภาพที่ดีแม้กับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ในการวิจัยชิ้นหนึ่ง นักวิจัยได้ทดสอบอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง .007 ไมครอน (เล็กกว่าไวรัส) และพบว่าหน้ากากผ่าตัดธรรมดาสามารถป้องกันได้ 80%
อย่างไรก็ตามหน้ากาก N95 และ N99 ก็ยังป้องกันได้ดีกว่าอยู่ดี เช่น ในการวิจัยนั้น หน้ากาก N95 สามารถดักจับไวรัสได้ถึง 96% (ดู 1)
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่หน้ากากผ่าตัดก็มีประสิทธิภาพมากๆเช่นเดียวกัน! เป็นไปได้ว่าอนุภาคของไวรัสอาจจับได้ง่ายจริงๆ เพราะไวรัสมักอยู่บนหยดน้ำ หรือบางทีการใช้หน้ากากทำให้คนไม่สัมผัสปากและจมูก ซึ่งในส่วนของตรงนี้เราทำได้แค่คาดเดาเท่านั้นเอง
สรุป
มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พบว่า (1) หน้ากากป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และ (2) หน้ากากผ่าตัดป้องกันการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสโคโรน่า (Covid-19) ได้ดีเทียบเท่ากับหน้ากาก N95
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม