PM2.5 และ PM10 เป็นมลพิษทางอากาศที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่าส่งผลกระทบต่อ “ผู้คนมากกว่ามลพิษอื่นๆ” ซึ่งแน่นอนว่ามลพิษทั้งสองตัวนี้ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว
PM2.5 vs. PM10
ความแตกต่างระหว่าง PM2.5 และ PM10 คือ ขนาด “ PM” ย่อมาจาก Particulate Matter ซึ่งหมายถึง ฝุ่นละอองในอากาศ เช่น ฝุ่นจากการก่อสร้าง อนุภาคถ่านหินจากโรงไฟฟ้า หรือแม้แต่อนุภาคในควันธูปและควันบุหรี่ เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: หากคุณสงสัยว่ามลพิษอากาศที่ปกคลุมเมืองอยู่มีอนุภาคขนาดเท่าใด ลองอ่านวิจัยนี้ที่ทำการศึกษาโดยจากนักวิจัยในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้วิเคราะห์ว่าอนุภาคเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร
ขนาดมีความสำคัญหรือไม่
PM10 และ PM2.5 หมายถึงอนุภาคที่มีขนาด 10 ไมครอน 2.5 ไมครอน ตามลำดับ (หรือ ไมโครมิเตอร์) ไมครอนมีขนาดเล็กมาก จะเล็กขนาดไหน เรามาลองดูภาพของไมครอนเมื่อเทียบกับเส้นผมของมนุษย์:
รูปถัดไปแสดงให้เห็นว่า คำว่า “PM10” และ “PM2.5” จริงๆแล้วหมายถึงอนุภาคที่ “เล็กกว่า” ตัวเลขที่ระบุเอาไว้ มลพิษแต่ละประเภทที่มีขนาดเท่ากับหรือต่ำกว่า PM10 จะมีชื่อเรียกว่าอนุภาคขนาด 10 ไมครอน ส่วน PM2.5 คือ มลพิษที่มีขนาดเท่ากับ 2.5 ไมครอน หรือต่ำกว่า (นั่นหมายความว่า PM2.5 จัดเป็นมลพิษขนาด PM10 ด้วยเช่นกัน)
อะไรที่ไม่นับว่าเป็น PM10 และ PM2.5
น่าคิดเลยทีเดียวใช่ไหม ว่าอะไรที่ใช่หรือไม่ใช่มลพิษ PM อนุภาคมลพิษที่ไม่รวมถึงแก๊สมลพิษ เช่นโอโซนและ NO2 นอกจากนี้ยังไม่รวมแก๊สมลพิษที่มักเกิดจากภายในบ้าน เช่น สารฟอร์มาลดีไฮด์จากเฟอร์นิเจอร์ใหม่ หรือสารในสีทาบ้าน เป็นต้น
สำหรับคนที่สงสัยเกี่ยวกับมลพิษอากาศ:
- การวัดค่า PM2.5 ของรัฐบาล (รวมถึงเคล็ดลับในการกำจัดอนุภาคต่างๆ ในอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 ไมครอน)
- อนุภาคเหล่านี้ส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไรและทำไมถึงไม่ได้อันตรายจนถึงแก่ชีวิตอย่างที่เราเข้าใจ
- จากผลการทดลองนี้ เราได้วัดค่า P2.5 ในบ้านที่ปักกิ่ง และมาดูกันว่าเครื่องฟอกอากาศ DIY สามารถกรอง PM2.5 ได้หรือไม่
สรุป:
PM10 คืออนุภาคที่มีขนาดเท่ากับหรือเล็กกว่า 10 ไมครอน ในขณะที่ PM2.5 คือออนุภาคที่มีขนาดเท่ากับหรือเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ส่วนแก๊สมลพิษอย่างโอโซนและ NO2 ไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของฝุ่น PM