เนื่องจากหน้ากากอนามัยขาดแคลนในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรน่า หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าการล้างหรือซักหน้ากากนั้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเพื่อนำกลับมาใช้หรือไม่
หลายๆบริษัทอ้างว่าหน้ากากป้องกันมลพิษของพวกเขานั้นสามารถซักได้ มีบริษัทในอินเดียแห่งหนึ่งที่อ้างว่าหน้ากากซักได้ของพวกเขานั้นสามารถดักจับมลพิษทางอากาศรวมไปถึงแบคทีเรียและ“เชื้อโรค”ได้
สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะขาดหายไปก็คือข้อมูลจริงในการนำมาสนับสนุนคำถามนี้ แต่เราจะทดสอบมันเอง
การทดสอบ: การซักหน้ากากด้วยน้ำและสบู่
คุณ Paddy นักวิศวกรของ Smart Air ได้ทดสอบโดยการล้างหน้ากาก N95 ของ 3M ที่เขาได้ใช้งานแล้วในช่วงโควิดระบาด
ขั้นตอนที่ 1: ใช้เครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศ Met One GT-521 ในการตรวจหาเปอร์เซ็นของการกรองอนุภาค 0.3 ไมครอนซึ่งมีขนาดเล็กมาก
อ่านต่อ: นี่คือเหตุผลว่าทำไมฝุ่นอนุภาค 0.3 ไมครอนจึงเป็นกุญแจสำคัญในการวัดประสิทธิภาพของหน้ากาก
ขั้นตอนที่ 2: ซักด้วยน้ำและสบู่ Smart Air ใช้สบู่ล้างมือยี่ห้อ Walch ซึ่งเคลมว่าสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.9% แต่ไม่ได้ระบุว่าฆ่าเชื้อไวรัสได้ดีแค่ไหน
ขั้นตอนที่ 3: หลักจากทิ้งไว้ให้แห้งข้ามคืน มาลองทดสอบการดักจับอนุภาคของหน้ากากกันอีกครั้ง
การทดสอบประสิทธิภาพการกรองของหน้ากาก
แม้ว่าคุณ Paddy จะใช้งานหน้ากากนี้มาแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์ มันก็ยังสามารถดักจับอนุภาคได้ถึง 99% ซึ่งนี่ก็อธิบายได้จากการทดสอบก่อนหน้าของ Smart Air ที่ค้นพบว่าหน้ากากนั้นยังคงประสิทธิภาพแทบจะเหมือนเดิมไม่ว่าจะใช้งานมาแล้ว 11 วัน 20 วัน หรือแม้แต่ 30 วัน
อย่างไรก็ตาม การซักหน้ากากนั้นทำให้ประสิทธิภาพลดลงกว่าอายุใช้งานโดยปกติไปมาก การซักนั้นทำให้การดักจับอนุภาคนั้นลงลงไปถึง 21%
แต่นั่นก็ยังดีกว่าประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยทางการแพทย์บางประเภทเสียอีก แต่ก็ยังถือว่าลดลงไปเยอะอยู่ดี
ทำไมการซักหน้ากากถึงเป็นอันตราย
คำตอบของคำถามนี้อยู่ในบริษัทที่ทำไฟเบอร์หรือเส้นใยสำหรับผลิตหน้ากากนั่นเอง ในการผลิตหน้ากาก N95 หรือหน้ากากป้องกันมลพิษอื่นๆนั้น ผู้ผลิตจะใช้เส้นใยที่เล็กมากๆต่อกันเป็นแผ่น
จากนั้นโรงงานก็จะทำให้แผ่นพวกนี้มีประจุไฟฟ้าสถิต
ดูต่อ: 3M ได้อธิบายถึงการมีประจุไฟฟ้าสถิตของหน้ากากในวิดีโอนี้
การซักนั้นทำให้ประจุไฟฟ้าสถิตนี้หายไปซึ่งนั่นก็ทำให้ประสิทธิภาพลดลง การซักแรงๆนั้นยังอาจจะทำลายเส้นใยซึ่งทำให้อนุภาคผ่านเข้ามาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ทำไมบางบริษัทถึงอ้างว่าหน้ากากของเขาซักได้
บริษัทบางแห่งอาจไม่ทราบว่าการซักหน้ากากสามารถทำให้ประสิทธิภาพนั้นลดลงไปอย่างมาก หรือเขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าจริงๆแล้วหน้ากากของพวกเขานั้นไม่ได้มาตรฐานของหน้ากาก N95 ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะแค่ขายหน้ากากผ้าฝ้ายธรรมดาๆที่สามารถทนทานต่อการซักแต่ไม่ได้มีประสิทธิภาพตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
อีกประเภทที่เห็นได้ทั่วไปก็คือหน้ากาก “ซักได้” ที่ทำมาจากผ้าฝ้ายและสามารถสอดแผ่นกรอง N95 ที่ไม่สามารถซักได้เข้าไป
จริงอยู่ที่ว่าแผ่นกรองพวกนี้ไม่สามารถซักได้ ยิ่งไปกว่านั้นหน้ากากที่สามารถใส่ไส้กรองเข้าไปได้ส่วนใหญ่แล้วจะประสิทธิภาพไม่ดีเท่าหน้ากาก N95 ของ 3M ซึ่งเห็นได้ชัดจากการทดสอบประสิทธิภาพของหน้ากากโดยดอกเตอร์ Richard Saint Cyr. จากกรุงปักกิ่ง
แล้วการซักด้วยแอลกอฮอล์ได้ผลหรือไม่
หรืออีกวิธีแก้ปัญหาสำหรับการซักหน้ากากคือการใช้แอลกอฮอล์กันนะ ถ้าน้ำและสบู่จำเป็นต้องมีการซักถู แอลกอฮอล์อาจจะทำอันตรายน้อยกว่าเนื่องจากมันสามารถฆ่าเชื้อได้โดยไม่ต้องถู
กลุ่มนักวิจัยจาก National Institute for Occupational Safety and Health (สถาบันความปลอดภัยและอนามัยในการทำงานแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา) ได้ทำการทดสอบหน้ากาก N95 ก่อนและหลังการนำไปจุ่มในแอลกอฮอล์ หลักจากปล่อยให้แห้งข้ามคืนหน้ากากดักจับอนุภาคได้น้อยลง 37% โดยเฉลี่ย
จริงๆแล้วการทดลองนี้อาจจะเกินจริงไปหน่อยเนื่องจากเหล่านักวิจัยนั้นรายงานผลลัพธ์โดยยึดอนุภาคที่มีขนาดที่ไม่สามารถทนต่อแอลกอฮอล์ได้มากที่สุด หน้ากากหลายๆประเภทนั้นสามารถดักจับอนุภาคขนาดประมาณ 0.3 ไมครอนได้โดยใช้เส้นใยที่มีประจุไฟฟ้าสถิต การจุ่มหน้ากากลงไปในแอลกอฮอล์นั้นทำให้ประจุนี้หายไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักวิจัยได้ลองดูอนุภาคที่เล็กลงไปอีก พวกเขาก็พบว่าการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์นั้นทำอันตรายน้อยกว่ามาก
อ่านต่อ: นี่คือเหตุผลว่าทำไมกราฟข้างบนถึงดูไม่สมเหตุสมผลแต่ว่ามันเป็นความจริง
สรุป
การซักหน้ากาก N95 ด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์นั้นทำให้ประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคนั้นลดลง
กำลังมองหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดหน้ากากของคุณจากเชื้อไวรัสอยู่หรือเปล่า
วิธีนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้โดยไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของหน้ากาก
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม