ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่า หน้ากากก็เป็นที่ขาดตลาด ด้วยเหตุนี้หลายๆคนจึงเริ่มตั้งคำถามว่าแสงยูวีสามารถฆ่าเชื้อในหน้ากากหรือไม่ และนี่เป็นข้อสงสัยของบุคลากรทางการแพทย์เช่นกัน เนื่องจากเขาก็พยายามหาวิธีที่สามารถนำหน้ากากกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างปลอดภัย
ปัญหาก็คือ เราทราบดีว่าแสง UV-C สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ แต่เราก็ต้องทราบด้วยเช่นกันว่าแสง UV-C ทำลายเส้นใย นั่นหมายความว่าเราต้องตั้งคำถามต่อไปว่าแสงยูวีจะลดประสิทธิภาพของหน้ากากหรือไม่
นำไปทดสอบ: แสงยูวีเป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพของหน้ากากหรือไม่
นักวิจัยได้คำตอบที่ชัดเจนของข้อสงสัยนี้ โดยทดสอบหน้ากาก N95 สี่อัน ทั้งก่อนและหลังการฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี
เขาทดสอบหน้ากาก N95 ทั้งสี่รุ่น ได้แก่ 3M 1860, 3M 9210, Gerson 1730 และ Kimberly-Clark 46727
โดยนำหน้ากากมาฆ่าเชื้อด้วยปริมาณแสงยูวีที่ต่างกัน 5 โดส (เรียกอีกอย่างว่า “UVGI”) หรือประมาณ 120-950 J/cm²
แสงยูวีฆ่าเชื้อมาสก์ได้ แต่ในปริมาณเท่าไหร่
ซึ่งแสงยูวีในปริมาณนี้นับว่าสูงเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นปริมาณที่ต่ำที่สุดก็ยังสูงกว่าที่นักวิจัยพบถึง 66 เท่าซึ่งมากพอที่จะหยุดการทำงานของไวรัสบนหน้ากาก (1.8 J/cm²) ได้ถึง 99.99%
เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการดักจับของหน้ากาก เขาได้ทำการพ่นเกลือขนาดประมาณ 0.02-0.4 ไมครอนไปที่หน้ากาก และวัดเปอร์เซ็นต์ที่เกลือสามารถทะลุผ่านหน้ากากได้ โดยอนุภาคขนาดประมาณนี้ครอบคลุมขนาดของอนุภาคไข้หวัดใหญ่ อีโบลาและไวรัสโคโรนา
ดูเพิ่มเติม: เครื่องฟอกอากาศแสง UV มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสหรือไม่ →
เขายังได้ทดสอบอนุภาคขนาดต่างๆ 10 ขนาด และดูจากข้อมูลว่าอนุภาคขนาดใดทะลุผ่านหน้ากากได้มากที่สุด
แสงยูวีทำลายประสิทธิภาพของหน้ากากเพียงไม่ถึง 2%
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าแสงยูวีแทบไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของหน้ากากเลย สำหรับหน้ากากส่วนใหญ่จะมีผลในการดักจับอนุภาคน้อยกว่า 1% ด้วยซ้ำ
ในการทดสอบทั้งสามครั้งพบว่าแสงยูวีทำลายประสิทธิภาพหน้ากากได้มากกว่า 1% และในกรณีที่แย่ที่สุดแสงยูวีก็ยังส่งผลต่อหน้ากากไม่เกิน 2% เท่านั้น
การฆ่าเชื้อด้วยแสง UV กลับเป็นอันตรายต่อหูหน้ากาก
การดักจับอนุภาคไม่ใช่สิ่งเดียวที่ต้องคำนึงถึง เพราะการคงสภาพของหน้ากากก็จำเป็นเช่นกัน ดังนั้นนักวิจัยจึงได้ทดสอบว่าแสงยูวีส่งผลต่อความสมบูรณ์ของสภาพหน้ากากอย่างไรบ้าง
หนึ่งในการการทดสอบ เขาทดลองดึงหูหน้ากากอย่างแรงจนกว่าสายจะขาด และพบว่ายิ่งใช้แสงยูวีในปริมาณที่มากเท่าไหร่ ยิ่งใช้แรงในการดึงน้อยลงเท่านั้น
ข้อมูลยังแสดงให้เห็นอีกว่าหน้ากากที่มีหูทำจากยาง (3M 9210) จะขาดได้ง่ายกว่าหน้ากากที่มีหูจากผ้ายืด (3M 1860) ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผู้ที่ประสงค์จะใช้หน้ากากซ้ำ นั่นแปลว่าหน้ากากที่มีหูแบบผ้ายืดจะใช้งานได้โดยเฉลี่ยนานกว่าหน้ากากหูยาง
วิธีสังเกต: ควรทิ้งหน้ากากเมื่อไหร่
หากบุคลากรทางการแพทย์ต้องการใช้แสงยูวีฆ่าเชื้อโควิด 19 ในหน้ากากจริงๆ ก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องทราบว่าสามารถฆ่าเชื้อได้กี่ครั้ง อย่างที่ทราบกันว่าถึงแม้จะใช้แสงยูวีปริมาณมาก ก็แทบไม่มีผลเลยต่อประสิทธิภาพของหน้ากาก แต่หากฆ่าเชื้อซํ้าๆก็จะมีผลอย่างแน่นอน
นักวิจัยบอกว่านอกจากแสงยูวีจะส่งผลกระทบต่อหูหน้ากากแล้ว ยัง “ส่งผลกระทบอย่างมาก” ต่อสภาพของหน้ากากอีกด้วย ซึ่งหน้ากากบางประเภทอาจขาดลุ่ยก่อนสูญเสียประสิทธิภาพในการกรองเลยด้วยซ้ำ
เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ไม่มีเครื่องวัดค่าฝุ่นแบบเลเซอร์เพื่อทดสอบอยู่เรื่อยๆว่าหน้ากากยังมีประสิทธิภาพแค่ไหน จึงเป็นไปได้ยากที่จะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องทิ้งหน้ากาก
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าให้สังเกตความเสื่อมโทรมของหน้ากากแทน พูดง่ายๆก็คือ เมื่อหน้ากากเริ่มลุ่ย ก็เป็นสัญญาณว่าควรทิ้งหน้ากากได้แล้วถึงแม้จะทราบว่าประสิทธิภาพในการกรองอาจไม่ได้ลดลงไปมากซะทีเดียว
สรุป
การฆ่าเชื้อหน้ากาก N95 ด้วยแสงยูวีมีผลต่อประสิทธิภาพการกรองน้อยกว่า 2% จึงสามารถนำหน้ากากกลับมาใช้ใหม่ได้
ทางเลือกที่ดีกว่าการฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี
การค้นพบนี้ให้ผลลัพธ์คล้ายกับการซักหน้ากากด้วยสบู่และน้ำ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการกรองด้วยเช่นกัน แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเพียงแค่รอให้หน้ากากแห้ง เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการฆ่าเชื้อ
อ่านเพิ่มเติม: วิธีการฆ่าเชื้อที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ จะหยุดการทำงานของไวรัสโดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของหน้ากาก
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม