เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ฟังดูเข้าท่าดีนะ แต่คำถามคือมันจำเป็นไหม แล้วมีประสิทธิภาพรึป่าว หลังจากที่เราเปิดตัวเครื่องฟอกอากาศ DIY ได้ไม่นาน เราก็ได้รับอีเมลหลายฉบับเกี่ยวกับการทำเครื่องฟอกอากาศสำหรับรถยนต์ แน่นอนว่าเราเห็นด้วย เพราะบนทางหลวงเต็มไปด้วยมลพิษ ดังนั้นการมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จึงน่าสนใจเลยทีเดียว
แต่เรามีข้อสงสัยมากมาย เลยลงมือทำการทดสอบ และผลการทดสอบกลับทำให้ได้ข้อสรุปที่คิดไม่ถึง: เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ “ไม่จำเป็น”
การทดสอบเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์: เครื่องฟอกอากาศจำเป็นหรือไม่
เพื่อทดสอบว่าเครื่องฟอกอากาศในรถจำเป็นหรือไม่ ขั้นตอนแรกเราไปที่ถนนต่างๆในเซี่ยงไฮ้พร้อมกับเครื่องวัดค่าฝุ่นเลเซอร์ Dylos DC1700 (คลิกเพื่อดูว่าเครื่องวัดค่าฝุ่นแม่นยำแค่ไหน) และนี่คือคุณภาพอากาศในเซี่ยงไฮ้:
ตัวเลขด้านซ้ายคือจำนวนของอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนขึ้นไป ซึ่งเกณฑ์ของตัวเลขที่แสดงว่า “ปลอดภัย” จะอยู่ที่ประมาณ 2,500 นั่นจึงหมายความว่าวันที่ทำอากาศทดสอบมีอากาศที่แย่เลยทีเดียว ส่วนตัวเลขทางด้านขวาคืออนุภาคขนาด 2.5 ไมครอนขึ้นไป ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า
ผลลัพธ์คุณภาพอากาศในรถยนต์
จากนั้น เราได้ทำการทดสอบบนรถแท็กซี่ และนี่คือคุณภาพอากาศขณะที่เริ่มเข้าไปในรถ:
ดีกว่าเยอะเลย! ปริมาณของอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนลดลงจนเหลือเพียง 25% ของอากาศภายนอก
และหลังจากนั้น 2-3 นาที:
ขนาดแท็กซี่ไม่มีเครื่องฟอกอากาศในรถ ปริมาณอนุภาคยังลดลงเหลือเพียงแค่ 11% ของอากาศภายนอกเท่านั้น
ทำไมอากาศในรถถึงดีกว่ามาก
เพราะระบบอากาศในรถยนต์มีตัวกรองอยู่แล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตัวกรองทำงานได้ดีเลยทีเดียวในเรื่องของการกรองอนุภาคที่เป็นมลพิษ และนี่คือตัวอย่างตัวกรองรถยนต์ในเว็บ Amazon ที่มีราคาเพียงประมาณ 300 บาทเท่านั้น
มาทดสอบอากาศในรถคันอื่นกันเถอะ
การทดสอบแสดงให้เห็นว่าระบบกรองอากาศในตัวของรถสามารถลดระดับอนุภาคได้อย่างมาก ซึ่งลดได้แม้แต่อนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน แต่มันเป็นที่รถหรือไม่
เพื่อความแน่ใจ เราจึงร่วมมือกับ Ohad เพื่อทำการทดสอบรถ Mazda ของเขาในประเทศอิสราเอล โดยรถคันนี้เป็นรุ่นปี 2010 ซึ่งไม่มีตัวกรองพิเศษอย่างแน่นอน
ขั้นตอนการทดสอบ
Ohad พกเครื่องวัดค่าฝุ่น Dylos ไปด้วยขณะขับรถ เมื่อขึ้นรถเขาเปิดแอร์โดยใช้โหมด “หมุนเวียนอากาศ” ปิดหน้าต่างให้สนิท และวัดทุกๆนาทีเป็นเวลาห้านาที ซึ่งนับว่าเป็นเวลาไม่นานเลย แต่เมื่อเทียบกับเวลาผู้โดยสารโดยสารโดยรถแท็กซี่ ก็จะเป็นเวลาไม่นานมากเช่นกัน
แต่เดี๋ยวก่อน มลพิษอากาศที่อิสราเอลแย่จริงไหม เราต้องบอกว่าหลายพื้นที่ของอิสราเอลเพิ่งประสบปัญหาหมอกควันที่อยู่ระดับอันตราย และในการทดสอบครั้งนี้ ค่าเริ่มต้นของอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนอยู่ในช่วง 2,464 (ใกล้ขีดจำกัดของ WHO) จนถึงมากกว่า 10,000 (สี่เท่าของขีดจำกัด) อากาศที่อิสราเอลเหมาะแก่การทดสอบ
ผลลัพธ์
เราเฉลี่ยผลลัพธ์จากการทดสอบทั้งหมด 8 ครั้ง และนี่คือสิ่งที่ได้:
ระบบกรองอากาศในรถ Mazda สามารถลดจำนวนอนุภาคได้อย่างมาก เมื่อเปิดแอร์ระดับสูงสุดเฉลี่ยเป็นเวลา 5 นาที ผลลัพธ์จึงแสดงให้เห็นว่าอนุภาค 0.5 ไมครอนลดลง 97% และอนุภาคขนาด 2.5 ไมครอนลดลงถึง 99%
หลายคนอาจสงสัยว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือระบบอากาศของรถยนต์จริงๆ ไม่ใช่การหายใจของคนที่สูดอนุภาคเข้าไปจนหมด หรืออาจเป็นเพราะอนุภาคสลายตัวได้เอง
Ohad ได้ทำการทดสอบแบบเดียวกันโดยปิดแอร์ในรถยนต์ วิธีนี้เราจึงทราบได้ว่าการลดลงเป็นเพราะระบบอากาศหรือไม่
เมื่อปิดแอร์ (เส้นสีแดง) ระดับอนุภาคจะลดลงเล็กน้อย อาจเป็นเพราะการสลายตัว แต่เมื่อเปิดแอร์ (เส้นสีน้ำเงิน) ระดับอนุภาคจะลดเร็วกว่ามาก
จากการทดสอบ 5 ครั้งโดยปิดแอร์ พบว่าอนุภาคลดลง (ขวา) แต่ไม่มากเท่ากับการทดสอบ 8 ครั้งโดยเปิดแอร์ด้วยระดับสูงสุด (ซ้าย):
เครื่องฟอกอากาศในรถมีประสิทธิภาพหรือไม่
จากการทดสอบพบว่า รถยนต์ส่วนใหญ่มีเครื่องฟอกอากาศในตัว โดยการทดสอบจาก Smart Air แสดงให้เห็นว่าตัวกรองในตัวทำงานได้ดีมาก และช่วยลดความจำเป็นในการซื้อเครื่องฟอกอากาศ
สรุป
เราไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เพิ่มเติม เพราะรถยนต์ส่วนใหญ่มีระบบกรองอากาศอยู่แล้ว ซึ่งช่วยลดมลพิษได้อย่างมากเลยทีเดียว
- ปิดกระจกรถ
- ใช้โหมด “หมุนเวียนอากาศ”
- เปิดแอร์ระดับสูงสุด (ควรเปิดอย่างน้อยในช่วงแรกที่ขึ้นรถ)
- ตรวจสอบและเปลี่ยนแผ่นกรองทุก 2-3 ดือน
- พิจารณาว่าจำเป็นต้องซื้อเครื่องกรองอากาศในรถแบบแยกจริงๆหรือไม่
ข้อยกเว้น: มลพิษก๊าซ
ข้อยกเว้นของการทดสอบ คือ ตัวกรองในรถยนต์มีหน้าที่ดักจับอนุภาค แต่จะไม่ดักจับก๊าซ เช่น NO2 ดังนั้นจึงควรพิจารณาเรื่องการใช้แผ่นกรองคาร์บอนเพิ่มเติม (แผ่นกรองคาร์บอนใช้งานได้จริงหรือ)
เรากำลังไม่แนะนำการใช้เครื่องฟอกอากาศในรถอยู่รึป่าว
หากเราเป็นหนึ่งในผู้ขับรถในประเทศที่มีมลพิษอากาศอย่างหนักอย่างประเทศจีน เราจะไม่ลังเลที่จะซื้อเครื่องฟอกในรถยนต์ แต่เราก็ไม่ได้ไม่แนะนำให้ใช้เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ซะทีเดียว เพราะอาจมีผู้ใช้บางคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เช่น คนที่ไวต่อมลภาวะเป็นพิเศษ หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
และแน่นอน ฉันมีข้อมูลดิบและรายละเอียดการทดสอบอื่นๆที่เปิดเผยต่อสาธารณะสำหรับผู้ที่สนใจ คลิกเพื่อดูการเปรียบเทียบฉบับเต็มของการทดสอบ ขณะเปิดแอร์ระดับสูงสุด ระดับต่ำ และขณะปิดแอร์
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม