เราต้องใช้แผ่นกรองแบบใดรวมกันบ้างเพื่อป้องกันตัวเองจากมลพิษทุกชนิด
นี่อาจดูเหมือนเป็นการอ้างที่เกินจริง แต่จริงๆแล้วมีเพียงแค่ 2 แผ่นกรองเท่านั้นที่คุณต้องการและนี่คือเหตุผลว่าทำไม (พร้อมด้วยข้อมูลรองรับ)
ดีแล้วล่ะหากคุณตั้งข้อสงสัย
ทำไมคุณถึงต้องสงสัย อย่างแรก อาจเป็นเพราะหลายบริษัทเครื่องฟอกอากาศใหญ่ๆอ้างว่าพวกเขามีแผ่นกรองที่ดีกว่าบริษัทอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม คุณThomas ผู้ก่อตั้ง Smart Air คนนี้กำลังบอกคุณว่า จริงๆแล้วคุณต้องการแผ่นกรองเพียงแค่2แผ่นเท่านั้น แต่ดูบริษัทอื่นๆเหล่านี้สิ่ พวกเขามีแผ่นกรองตั้ง6ชั้น (ในกรรมสิทธิ์) :
แต่เดี๋ยวก่อน ผมว่าพวกนั้นเป็นมนุษย์ยุคหินไปแล้วล่ะ เพราะว่าบริษัทเหล่านี้มีตั้ง7ชั้นในกรรมสิทธิ์
ผมอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านมลพิษทางอากาศ ผมเป็นแค่นักจิตวิทยาสังคมที่ทำงานวิจัยมากมายในประเทศจีน แต่การที่ใช้เวลายาวนานในประเทศจีนนั้นทำให้ผมมีความตระหนักถึงเรื่องมลพิษทางอากาศที่ผมสูดอากาศเข้าไปมากขึ้น และในท่ามกลางการตระหนักนั้น มีบริษัทเครื่องฟอกอากาศหนึ่งแนะนำให้ผมจ่าย 2,000 ดอลลาร์และรับรองว่าผมจะได้รับ “อากาศที่สะอาดที่สุด” และนั่นยิ่งทำให้ผมสงสัย
มันเป็นราคา 2,000 ดอลลาร์ที่ต้องจ่ายเพื่อทำสิ่งนั้นจริงๆหรอ มีอะไรที่แตกต่างระหว่าง “plasma arrays” และแผ่นกรองHEPAของประเทศสวิสที่นำเข้ามาหรือไม่
ผมจึงเริ่มทำการค้นคว้าให้มากขึ้นและได้ค้นพบเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศที่ง่ายมากๆ ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องฟอกอากาศก็คือพัดลมและตัวกรอง
การสร้างเครื่องฟอกอากาศด้วยตัวเองนั้นง่ายมาก เพียงแค่เอาแผ่นกรองHEPAมามัดไว้กับพัดลมเท่านั้นเอง (นี่คือวิธีการสร้างเครื่องฟอกอากาศแบบDIYด้วยตัวเอง)
แต่อย่างไรก็ตาม ผมอยากรู้ว่ามันจะสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษทางอากาศแต่ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นอย่างน้อยผมก็มีความเข้าใจในข้อมูล ผมจึงซื้อเครื่องวัดฝุ่นแบบเลเซอร์มาเพื่อทำการทดสอบมลพิษขนาดเล็กมากในอากาศของผม โอ้โห ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้ผมพูดไม่ออกเลยทีเดียว
ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงเครื่องฟอกอากาศแบบ DIYในราคา 30 ดอลลาร์สามารถกำจัดอนุภาคขนาด 0.5 ไมครอนในห้องผมได้มากถึง84%โดยเฉลี่ย และในแบบที่พัดลมมีกำลังมากกว่าสามารถลดอนุภาคได้มากถึง 97% (ผมได้เปิดให้ข้อมูลและวิธีเอาไว้)
ผมตื่นเต้นมากและต้องการให้ทุกคนรู้ ดังนั้น ผมจึงเริ่มสร้างกลุ่มที่เรียกว่า Smart Air ขึ้นมาเพื่อที่จะส่งเครื่องฟอกอากาศนี้ให้กับคนที่ต้องการอากาศสะอาด หลังจากนั้น ผมจึงลองเริ่มเพิ่มจากเครื่องฟอกอากาศแบบDIYที่ทำที่บ้านให้โตมากขึ้นจนเป็นบริษัท และผมได้ลองทำการทดสอบแผ่นกรองทุกแแผ่นจากทุกโรงงานผลิตมากเท่าที่ผมจะหาได้ และสิ่งที่ผมพบก็คือ เราต้องการแผ่นกรองเพียงแค่2แผ่นจริงๆ:
มันมีมลพิศทางอากาศที่สำคัญอยู่2ประเภท และนั่นคือหลักการว่าทำไมเราถึงต้องการแผ่นกรองแค่2แผ่น
1. อนุภาค : แผ่นกรอง HEPA
ในทุกๆอนุภาคที่เกิดขึ้น แผ่นกรองHEPAคือสิ่งเดียวที่คุณต้องการ มันถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อช่วงประมาณปี 1940 และมันเป็นเพียงแค่เสื่อของเส้นใยสังเคราะห์เท่านั้น
มันสามารถดักจับอนุภาคที่สำคัญจำเป็นได้ ในตอนแรกผมเข้าใจผิดว่าแผ่นกรองHEPAสามารถดักจับอนุภาคขนาด 0.3ไมครอนหรือมากกว่าได้
แต่ในความเป็นจริงมันเป็นอะไรที่แปลกกว่านั้นมาก เพราะผลปรากฏว่าแผ่นกรอง HEPA (รวมถึงหน้ากากและเตากรอง) สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ดีกว่า
มีหลายคนที่ถามผมเกี่ยวกับอนุภาคจำเพาะว่า แผ่นกรองHEPAสามารถดักจับไรฝุ่น สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง แร่ใยหิน แบคทีเรีย เชื้อรา ได้หรือไม่ และคำตอบก็คือ ได้ แผ่นกรอง HEPAสามารถดักจับสิ่งเหล่านั้นได้
นี่คือวิธีง่ายๆในการตอบคำถามว่า แผ่นกรองHEPAสามารถดักจับอนุภาคที่คุณกังวลถึงได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่ามันเป็นอนุภาค ดังนั้น คำตอบก็คือ ได้
2. ก๊าซ : แผ่นกรองคาร์บอน
มลพิษทางอากาศอีกหนึ่งประเภทก็คือ ก๊าซ ซึ่งรวมถึงสารเคมีอื่นๆที่มักจะแพร่กระจายอยู่ในบ้าน เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ที่มาจากเฟอร์นิเจอร์ สารเคมีที่มาจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือแม้แต่สารเคมีที่มาจากเสื้อผ้าที่ยับยาก
มลพิษก๊าซอาจมาจากอากาศนอกบ้านได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และโอโซน ซึ่งมักมีแหล่งที่มาจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม
แล้วเราจะมีวิธีป้องกันตัวเองจากก๊าซเหล่านั้นได้อย่างไร แผ่นกรองHEPAไม่สามารถกำจัดพวกมันได้เนื่องจากว่าแผ่นกรองHEPAมีหน้าที่ในการดักจับอนุภาค ดังนั้น เราจึงต้องใช้แผ่นกรองคาร์บอนในการดักจับก๊าซเหล่านั้น
แผ่นกรองคาร์บอนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก ผมได้ทำการทดสอบในชีวิตจริงเพื่อค้นหาคำตอบว่าแผ่นกรองคาร์บอนนั้นใช้งานได้ดีจริงหรือไม่ และข้อมูลแสดงให้เห็นว่าแผ่นกรองคาร์บอนสามารถดักจับสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) ที่มาจากบุหรี่ได้ (ซึ่งอาจรวมถึงเบนซินจำนวนหนึ่งด้วย)
ผมได้สั่งฟอร์มาลดีไฮด์ส่งตรงมาจากโรงงาน
และไม่ว่าจะเป็นสารเคมีอะไรก็ตามแต่ที่มากับพื้นและผนังใหม่ของออฟฟิศ Smart Air
การติดตามว่าแผ่นกรองคาร์บอนสามารถดักจับก๊าซอะไรได้บ้างอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า แผ่นกรองคาร์บอนสามารถดักจับโอโซนไนโตรเจนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้ ดังนั้นแผ่นกรองคาร์บอนธรรมดาก็อาจช่วยลดก๊าซที่เป็นมลพิษส่วนใหญ่ที่เราเป็นกังวลถึงได้
นั่นคือทั้งหมด แผ่นกรองทั้ง2แผ่นสามารถช่วยป้องกันคุณจากทุกอย่างได้ อย่างน้อยก็กับมลพิษที่เรามีแนวโน้มที่จะเจอมากที่สุด
แผ่นกรองคาร์บอนมีข้อจำกัดที่สำคัญอยู่ 2 ข้อด้วยกัน
แผ่นกรองคาร์บอนเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ไม่ดีเท่าแผ่นกรองHEPA ข้อแรกก็คือ แผ่นกรองHEPAสามารถดักจับอนุภาคได้99%ในการไหลผ่านของอากาศครั้งเดียว แต่แผ่นกรองคาร์บอนไม่สามารถทำได้เท่านั้น ยกตัวอย่าง งานวิจัยนี้พบว่าแผ่นกรองคาร์บอนสามารถดักจับก๊าซเคมีที่ต่างกันได้ระหว่าง 5%-60% ในการไหลผ่านของอากาศครั้งเดียวหรือบางครั้งอาจต่ำกว่านั้นด้วยซ้ำ
แผ่นกรองคาร์บอนมีขีดจำกัด ดังนั้นยิ่งมีคาร์บอนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น บริษัทเครื่องฟอกอากาศที่ใส่คาร์บอนไปในแผ่นกรองแค่นิดเดียวเพื่อที่จะใส่คาร์บอนไปในแผ่นข้อมูลจำเพาะแทนเพื่อพวกเขาจะได้มีกำไรมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคาร์บอนถึงขีดจำกัดในการจุของมัน ประสิทธิภาพการทำงานของมันก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว
สรุป
หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับก๊าซที่เป็นมลพิษ ลองมองหาแผ่นกรองคาร์บอนที่มีคาร์บอนจำนวนมากและเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อยครั้งดู นั่นเป็นสิ่งง่ายๆที่สามารถช่วยคุณลดมลพิษจากก๊าซได้
ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่รู้ล่ะ
แผ่นกรองราคาไม่แพงเพียงแค่ 2 แผ่นสามารถช่วยลดอนุภาคและก๊าซพิษได้เป็นอย่างดี ทำไมคนส่วนใหญถึงไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ
หนึ่งปัญหาใหญ่ๆก็คือ บริษัทเครื่องฟอกอากาศไม่ได้ทำเงินจากการขายที่ธรรมดานั่นเอง พวกเขาทำเงินจากการอ้างว่าเขามีเทคโนโลยีล้ำสมัย (ที่พวกเขาไม่ยอมรับให้บุคคลอื่นทำการทดสอบผลิตภัณฑ์พวกเขา) แผ่นกรองนำเข้าแบบพิเศษ (ที่พวกเขาก็ไม่อยากให้ทดสอบเหมือนกัน) หรือข้อได้เปรียบอื่นๆที่จะทำให้คุณต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม
หนึ่งในกลวิธีที่บริษัทเหล่านั้นใช้ในการขายมากที่สุดก็คือวิธีที่กล่าวถึงด้านบนว่าพวกเขามีสรรพคุณพิเศษอื่นๆในเครื่องฟอกอากาศของพวกเขา และนี่คือสิ่งที่ Dyson อ้างถึง:
แต่ถ้าหากว่าเป็น…
แต่เดี๋ยวก่อน คุณต้องการแผ่นกรองแค่เพียง2แผ่นจริงหรือ มันอาจจะมีความซับซ้อนกว่านั้นแน่นอน แต่ถ้าเป็น…
แผ่นกรองอากาศชั้นต้น
แผ่นกรองอากาศชั้นต้นคือ แผ่นกรองที่ถูกเพิ่มลงไปในเครื่องฟอกอากาศของคุณนั่นเอง
แผ่นกรองอากาศชั้นต้นไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่าใด หน้าที่ของพวกมันก็คือ ดักจับอนุภาคขนาดใหญ่ที่แผ่นกรองHEPAสามารถดักจับได้อยู่แล้ว แต่ข้อดีก็คือมันเป็นตัวช่วยในการยืดอายุการใช้งานของแผ่นกรองHEPAให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น
กลิ่น
กลิ่นส่วนใหญ่มักมาจากสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) นั่นก็หมายความว่าแผ่นกรองคาร์บอนสามารถช่วยในการดักจับกลิ่นนั้นได้
แผ่นกรองHEPA สามารถล้างทำความสะอาดได้หรือไม่
ปัญหาใหญ่ของแผ่นกรองHEPAก็คือมันมีขีดจำกัดความจุของมัน หลังจากนั้นก็ต้องทิ้งไป บางบริษัทอ้างว่าแผ่นกรองHEPAของพวกเขาสามารถล้างทำความสะอาดได้ รวมถึง”ผู้เชี่ยวชาญ”ทางด้านเครื่องฟอกอากาศยังแนะนำให้คุณล้างทำความสะอาดแผ่นกรองHEPAของคุณอีกต่างหาก
นักวิจัยข้อมูลที่Smart Air ได้ทำการทดสอบทั้งการดูดฝุ่นและการล้างแผ่นกรองHEPA ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่า การล้างทำความสะอาดแผ่นกรองHEPAเป็นการทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของมันลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังไม่ได้เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับการล้างทำความสะอาดของแผ่นกรอง HEPA
ควัน
จริงๆแล้วควันคืออะไรกันแน่ ควันประกอบไปด้วยอนุภาคและก๊าซ
สำหรับอนุภาคแล้ว เรารู้ดีอยู่แล้วว่าแผ่นกรองHEPAสามารถดักจับมันได้ และสำหรับก๊าซอันตรายอย่าง VOC ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อมีการเผาไหม้ แผ่นกรองคาร์บอนก็จะช่วยในการดักจับก๊าซเหล่านั้นได้ (ลองดูเกี่ยวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามข้อมูลด้านล่างนี้)
คาร์บอนไดออกไซด์
คาร์บอนไดออกไซด์จะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีคนอยู่ในห้องที่ปิดและไม่มีอากาศถ่ายเท หากมีคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับปานกลาง ผลกระทบก็คือจะทำให้คนเกิดอาการเหนื่อย แต่ในระดับสูงมากแล้วนั้นมันจะทำให้คนเกิดอาการเจ็บป่วยหรือตายได้ แต่คุณจะไม่ค่อยพบมันที่บ้านของคุณหรอก
แผ่นกรองคาร์บอนในท้องตลาดขณะนี้ไม่สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ วิธีที่ดีที่สุดในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ใช่การซื้อเครื่องฟอกอากาศเกรดเรือดำน้ำ แต่เป็นการพยายามปล่อยให้อากาศด้านนอกเข้ามาไหลเวียนและถ่ายเทให้ได้มากที่สุด
ไอเสียจากดีเซล
ไอเสียจากดีเซลประกอบไปด้วยก๊าซมลพิษ อย่าง ไนโตรเจนไดออกไซด์และอนุภาคอื่นๆ
ซึ่งแผ่นกรองHEPAสามารถดักจับอนุภาคได้ และแผ่นกรองคาร์บอนสามารถดักจับไนโตรเจนไดออกไซด์ แล้วถ้าเป็น…
คาร์บอนมอนอกไซด์
การศึกษาการทดลองพบว่า แผ่นกรองคาร์บอนสามารถดักจับคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ แต่ผมไม่รู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นของมันอย่างแน่ชัด คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซอันตราย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าผมอยู่ในห้องที่มีเตาอบที่อาจเป็นตัวก่อให้เกิดคาร์บอนมอนอกไซด์ ผมคงไม่ไว้ใจให้แผ่นกรองคาร์บอนป้องกันผมได้
อนุภาคขนาดละเอียดมาก
อนุภาคขนาดละเอียดมากเป็นจุดเปลี่ยนเลยใช่ไหมล่ะ เพราะว่ามันเกี่ยวกับอนุภาคนาโน มีครั้งหนึ่งผมได้รับอีเมลจากคนที่อาศัยอยู่ในลูกบอลพลาสติกเพราะเขากลัวว่าจะมีอนุภาคนาโนลอยตัวอยู่ในอากาศ
สิ่งที่แผ่นกรองHEPAทำได้อย่างน่ามหัศจรรย์ (และทฤษฎีการเคลื่อนที่แบบ Brownian)คือ มันสามารถดักจับอนุภาคขนาดละเอียดมาก (<1ไมครอน) ได้ดีกว่าอนุภาคขนาดประมาณ .1ไมครอนเสียอีก (ผมได้ค้นพบการสาธิตเกี่ยวกับมัน คุณสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่และที่นี่)
ในความป็นจริงแล้ว พวกมันมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีมากในการดักจับอนุภาคที่มีขนาดต่างกัน ซึ่งจะอยู่ที่ระหว่าง 99.X% และ 99.Y%
สรุป
คุณไม่จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่ในลูกบอลพลาสติก เพราะแผ่นกรองHEPAสามารถดักจับอนุภาคขนาดละเอียดมากได้เช่นกัน
Ionizer
Ionizer เป็นสิ่งที่ดี พวกมันไม่ต้องการแผ่นกรองและเสียงเบามาก (คลิกที่นี่เพื่อดูการทำงานของIonizer)
ปัญหาเดียวที่มีคือ Ionizer เป็นเครื่องฟอกอากาศที่แย่มาก (1,2) แถมมันยังสร้างก๊าซโอโซนที่เป็นอันตรายอีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าใช้มันเลย
เครื่องผลิตโอโซน
จากสิ่งที่ผมได้ศึกษามา เครื่องผลิตโอโซนเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ดีเลยทีเดียว แต่ปัญหาเดียวที่มีคือโอโซนเป็นอันตรายทำให้ผู้คนถึงแก่ชีวิตได้ เพราะฉะนั้นก็อย่าใช้เครื่องผลิตโอโซนเลย
รังสี UV
บางบริษัทเครื่องฟอกอากาศใส่รังสีUVเพิ่มเข้าไปในเครื่องฟอกอากาศเพราะเขาอ้างว่ารังสีUVสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งมันก็สามารถฆ่าได้จริง แต่มันไม่สามารถฆ่าได้ด้วยระยะเวลาสั้นๆที่อากาศพัดผ่านเครื่องฟอกอากาศ (อ้างอิงจากEPA) เพราะฉะนั้นก็อย่าใช้รังสีUVเลย
เทคโนโลยี Plasma-iodide-plutonium-nano-ultra
ถ้าหากว่าคุณอ่านบทความอื่นๆมาเยอะคุณจะเห็นว่ามีการอ้างถึงเทคโนโลยีที่ผมไม่เคยกล่าวถึงในบทความของผม
อาจฟังดูดีกว่า ราคาสูงกว่าและคนอาจจะอยากรู้ว่ามันสามารถทำงานได้ดีกว่าจริงหรือไม่
ก่อนที่จะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ จำเทคโนโลยีธรรมดาๆพวกนั้นได้ไหม (เช่นพวกไฟเบอร์และคาร์บอน) ที่มันสามารถช่วยทำความสะอาดอากาศของคุณด้วยราคาไม่แพง และถ้าหากว่าเทคโนโลยีใหม่นั้นดีจริง ผมก็ยังจะรอให้มีคนไปทำการทดสอบและสาธิตมันก่อนว่า 1)มันดีกว่า 2)มีอายุการใช้งานที่นานกว่า 3)ไม่ได้ผลิตสิ่งที่เป็นอันตรายที่เราไม่เคยพบมาก่อน มันอาจฟังดูเหมือนเป็นมาตรฐานที่สูง แต่อย่างไรก็ตามเครื่องฟอกอากาศก็เป็นสิ่งที่ดีในการเริ่มต้นหาอากาศสะอาดให้ตัวเองอยู่แล้ว
Breathe safe!
เกี่ยวกับ Smart Air
Smart Air เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการยอมรับโดย B corp ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงมิติทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับตำนานที่บริษัทใหญ่ๆที่หวังเพิ่มราคาอากาศบริสุทธิ์
อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศนั้นเต็มไปด้วยความต้องการที่จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ซับซ้อนและมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ไม่ซับซ้อนเลย เพราะสิ่งเดียวที่ต้องการคือพัดลมและแผ่นกรองอากาศ
บริษัทใหญ่ๆไม่สามารถได้กำไรจากความเรียบง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มลูกเล่นที่ไม่จำเป็นลงไปในเครื่องจักรของเขา
Smart Air ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบเรียบง่ายที่มีการแจกจ่ายข้อมูลอย่างเปิดเผยรองรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของมันโดยการตัดลูกเล่นทางการตลาดที่แปลกใหม่ออกไป เช่น เครื่องสร้างประจุไอออนและหลอด UV ที่อาจทำให้อากาศของคุณแย่ลง เราสามารถทำให้มีอากาศสะอาดมากขึ้นโดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นมีราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายที่ “พวกบริษัทใหญ่” จะเรียกเก็บเงินจากคุณ
ติดตามและเพิ่มเราเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม