หน้ากาก N95 และ KN95 ต่างกันอย่างไร

หลายๆคนอาจสับสนระหว่างหน้ากากอนามัย N95 และ KN95 เพราะชื่อที่มันคล้ายกันเหลือเกินนี่ล่ะ แต่หน้ากากทั้งสองรุ่นต่างและเหมือนกันยังไง แผนภาพด้านล่างนี้จะแสดงให้เราเห็นกันชัดๆ

แผนภาพเปรียบเทียบ N95 เเละ KN95

แหล่งที่มา: 3M – Comparison of FFP2, KN95, and N95 and Other Filtering Facepiece

Respirator Classes

สรุปง่ายๆเลยก็คือ N95 เป็นหน้ากากสำหรับใช้ในงานอุตสาหรรม มาตรฐานสหรัฐอเมริกา ส่วนหน้ากาก KN95 เป็นหน้ากากอนามัย มาตรฐานจีนนั่นเอง

N95 และ KN95 ต่างกันอย่างไร

บริษัทผลิตหน้ากากอนามัย 3M กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าคิด” ทีี่ KN95 ของจีน “มีความคล้าย” กับ N95 ของสหรัฐฯ หรือแม้แต่หน้ากากมาตรฐานยุโรป (FFP2) ออสเตรเลีย (P2) เกาหลี (KMOEL) และญี่ปุ่น (DS) ก็มีความคล้ายคลึงกันมากเช่นกัน

N95 vs. KN95: เหมือนกันยังไง

ผู้ใช้หลายๆคนให้สนใจถึงเปอร์เซ็นต์ที่หน้ากากอนามัยดักจับได้ซะส่วนใหญ่ ในเมตริกนี้หน้ากากอุตสาหกรรมอย่าง N95 และ KN95 มีความคล้ายกันอย่างมาก และมีการให้คะแนนว่าหน้ากากทั้งสองรุ่นดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 95% อย่างเท่าๆกัน (อนุภาค 0.3 ไมครอน)

จากการประเมินหน้ากาก N95 และ KN95 ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้กว่า 95% หลายๆคนจึงเข้าใจว่าขนาดที่เล็กกว่า 0.3 ไมครอนก็ดักจับไม่ได้น่ะสิ แต่ถ้าเป็นอย่างที่เข้าใจจริงๆมันคงย้อนแย้งความจริงที่ว่า หน้ากากทั้งสองแบบป้องกันไวรัสได้ดีเยี่ยม

ซึ่งความจริงที่อาจฟังดูย้อนแย้งก็คือ การดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน นั้นง่ายกว่าการดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน กว่ามาก สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เพราะเราได้ยกการอธิบายเบื้องหลังหลักการทางวิทยาศาสตร์ดังกล่าวมาให้คุณแล้ว »

N95 vs. KN95: ต่างกันยังไง

การประเมินหน้ากากทั้งสองแบบจำเป็นต้องมีการทดสอบเพื่อดูประสิทธิภาพการกรองอนุภาคของเกลือ (NaCl) พบว่าหน้ากากทั้งสองมีอัตราการไหล 85 ลิตร/นาที แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งสามารถดูได้ในหัวข้อด้านล่าง

N95 vs. N95 – ข้อแตกต่างที่น่าสนใจ

ถึงความแตกต่างส่วนใหญ่มักไม่ได้ให้ความสนใจต่อผู้ใช้นัก แต่ก็ยังมีข้อสำคัญอยู่ ดังนี้:

1. เพื่อให้ได้รับการรับรองว่าเป็นหน้ากาก KN95 ที่ได้มาตรฐาน รัฐบาลจีนกำหนดให้ผู้ผลิตทำการทดสอบความพอดีของหน้ากากกับใบหน้าจริงของมนุษย์ โดยกำหนดให้อัตราการไหลผ่านของอากาศอยู่ที่ ≤ 8% ซึ่งมาตรฐานหน้ากาก N95 ไม่ได้กำหนดให้ผู้ผลิตทำการทดสอบความพอดีของหน้ากาก

ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าการทดสอบความพอดีของหน้ากากไร้ประโยชน์ เพราะโรงพยาบาลและ บริษัท หลายแห่งต้องการให้พนักงานเข้ารับการทดสอบความพอดีของหน้ากากเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามข้อกำหนดเหล่านี้เป็นของบริษัท ไม่ใช่ของสถาบันอาชีวอนามัย และความปลอดภัยแหงประเทศสหรัฐอเมริกา (US NIOSH) แต่อย่างใด

2. หน้ากาก N95 มีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่านิดหน่อยในเรื่องของแรงดันลดขณะหายใจเข้า นั่นหมายความว่าต้องระบายอากาศได้ดีกว่าหน้ากาก KN95 เล็กน้อย

และถึงแม้ว่าคุณอาจรู้สึกว่าใส่หน้ากากแล้วหายใจยากกว่าปกติ เราต้องบอกเลยว่าการขาดออกซิเจนเนื่องมากจากการสวมหน้ากากจนอาจก่อให้ถึงแก้ชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย

3. ไม่เพียงข้อกำหนดเรื่องหายใจเข้า แต่หน้ากาก N95 ยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าเล็กน้อยในเรื่องของแรงดันลดขณะหายใจออกเช่นกัน ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้ทำให้ N95 ทำงานในเรื่องการระบายอากาศได้ดีกว่า